มูลนิธิทีทีบี ดำเนินงานผ่าน โครงการ “เท่อย่างไทย โดย ไฟ-ฟ้า ทีทีบี” ประกาศผลการตัดสินรอบ
ชิงชนะเลิศในการประกวดอ่านฟังเสียงและการพูดต่อหน้าสาธารณชน ประจำปี 2567 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลทุนการศึกษา เพื่อเติมเต็มแรงบันดาลใจและจุดประกายเยาวชนให้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าในเอกลักษณ์ไทย ไม่ว่าจะเป็นการพูด อ่าน และมารยาทอันดีงาม โดยในปีนี้มีโรงเรียนจากทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการมากถึง 683 สถาบัน จำนวน 6,480 คน แบ่งเป็นกิจกรรมประกวดมารยาทไทย 1,772 คน และการประกวดอ่านฟังเสียงและการพูดต่อหน้าสาธารณชน 3,044 คน
นางประภาศิริ โฆษิตธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า "วัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะเรื่องมารยาทและการไหว้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์อันงดงามของไทยได้เป็นอย่างดี และยังถือเป็นหนึ่งในมรดกทางภูมิปัญญาที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ ซึ่งการมีส่วนร่วมของเด็ก ๆ ในโครงการเท่อย่างไทย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความสนใจในวัฒนธรรมของเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ กล้าแสดงออกถึงความเป็นตัวเองอย่างสร้างสรรค์ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของโครงการไฟ-ฟ้า โดยทีทีบี ที่มุ่งจุดประกายเยาวชนและชุมชน เพื่อเสริมสร้างสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคมและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายให้กับผู้คนอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ทางโครงการยังจัดรูปแบบการประกวดผสมผสานทั้งออนไลน์และออนไซต์ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนจากทุกระดับชั้นทั่วประเทศสามารถเข้าถึงการประกวดได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประกวดมารยาทไทย ประกวดอ่านฟังเสียง และประกวดการพูดต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งล้วนเป็นทักษะสำคัญสำหรับการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตในอนาคต”
ทางด้านตัวแทนจากคณะกรรมการผู้ตัดสิน นางสุภาพร โพธิ์แก้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อสารมวลชน กล่าวเพิ่มเติมว่า “โจทย์ในการประกวดครั้งนี้ เป็นการฝึกทักษะเด็ก ๆ ในเรื่องการสื่อสารที่ดี เพราะทุกคนต้องขบคิดโจทย์ให้แตกภายใต้เวลาจำกัด ฝึกไหวพริบ ความคิด และทักษะการค้นหาข้อมูล โดยเกณฑ์การตัดสินหลักของการประกวดพูดต่อหน้าสาธารณชน คือ การเรียงลำดับความคิดที่ชัดเจน การสื่อสารที่ตรงประเด็น และการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตามหลักภาษา ทั้งระดับภาษา ไวยากรณ์ และการออกเสียง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเด็ก ๆ หลายคนสามารถทำได้ดีเยี่ยมในหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งบางคนยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ของตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างน่าสนใจ”
แม้จะมีกรอบเรื่องระยะเวลาในการเตรียมตัวมากดดัน แต่เด็กหญิงเมทิดา ปิ่นฆะกูล โรงเรียนสตรีวิทยา ก็สามารถเอาชนะความท้าทายนี้ได้ จนสามารถคว้ารางวัลเป็นผู้ชนะการประกวดการพูดในที่สาธารณะระดับมัธยมต้นได้สำเร็จ โดยเด็กหญิงเมทิดา เล่าว่า “รู้สึกภูมิใจมากที่ได้รับคัดเลือกให้มาประกวดบนเวทีระดับประเทศแบบนี้ แม้จะตื่นเต้นแต่ก็ทำให้ดีที่สุดตามที่ได้ฝึกซ้อมกับคุณครู ผ่านการลองฝึกทำโจทย์ในหัวข้อต่าง ๆ เกี่ยวกับสังคมและเยาวชน โดยที่ยังคงความเป็นตัวเราเองเวลาพูด และถึงแม้จะต้องเจอกับความกดดันเรื่องเวลา แต่ความกดดันนี้ก็เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราได้ฝึกจัดการเวลา ทักษะการพูด และฝึกการคิด นอกจากนี้ ยังมองว่าความสำเร็จในเวทีนี้จะเป็นโอกาสในการต่อยอดเรื่องการศึกษาและการประกวดในเวทีอื่นๆ ต่อไปในอนาคต"
ปิดท้ายที่ นางสาวณัฏธิดา ขุมเงิน โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 ผู้ชนะการประกวดการพูดในที่สาธารณะระดับมัธยมปลาย เผยถึงประสบการณ์และบอกเล่าความรู้สึกว่า “ตื่นเต้นมากที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการประกวด และอยากขอบคุณคุณครูที่ช่วยฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวัน โดยจะฝึกพูดวันละโจทย์ เพื่อพัฒนาเรื่องการเรียงลำดับคำพูดและการใช้น้ำเสียง ซึ่งเราชอบเรื่องการพูดมาก ๆ และคิดว่าการประกวดนี้มีประโยชน์ต่อทั้งการเรียน การใช้ชีวิต และช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง รวมไปถึงต่อยอดการทำงานในอนาคตที่มีความฝันว่าอยากลองเป็นวิทยากรสักครั้ง”
ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนไทยรุ่นใหม่ ที่พร้อมก้าวสู่อนาคตและเป็นกำลังให้สังคมได้อย่างมั่นใจ และไม่หลงลืมเอกลักษณ์ที่ดีงามของไทย
#เท่อย่างไทย #โครงการเท่อย่างไทยโดยไฟฟ้าทีทีบี #ไฟฟ้าทีทีบี #เท่ได้ต้องไม่บูลลี่
#ให้ชีวิตการเงินดีทั้งวันนี้และอนาคต #เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น
#ttb #MakeREALChange
ข่าวเด่น