เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ปัจจัยแวดล้อมยังเป็นลบกดดันดัชนี"


 


ดอลลาร์แข็งค่ากดดันเงินบาทอ่อนค่ายังเป็นลบต่อทิศทาง Fund Flow รวมถึง Bond Yield สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น สร้าง Sentiment ลบต่อตลาด ให้ปรับตัวลงได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1440 และ 1430 จุด ตามลำดับ ด้านการฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1450-1460 จุด ประเด็นสำคัญ ติดตามรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนต.ค. ในคืนนี้

ประเด็นสำคัญ

• นายกฯ นัดถกบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งแรก 19 พ.ย.นี้ เตรียมถกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งต่อยอดมาตราการเดิมและมาตราการใหม่ที่จะลงลึกรายละเอียดมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน 

• ครม. เห็นชอบ 2 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แบ่งเป็นมาตรการสินเชื่อ 1.5 หมื่นลบ. ช่วยคนรายได้น้อยแก้หนี้นอกระบบ และมาตรการสินเชื่อ "ซื้อ แต่ง ซ่อม สร้างบ้าน" กระตุ้นอสังหาฯ อีก 5.5 หมื่นลบ. 

• สมาคมโรงแรมไทยเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรม ต.ค. 2567 พบธุรกิจโรงแรมปรับดีขึ้นสะท้อนจากอัตราเข้าพักอยู่ที่ 58% เพิ่มขึ้นจาก ก.ย. 2567 และ ก.ย. 2566 ตามฤดูกาลท่องเที่ยว โดย 4Q67 คาดดัชนีความเชื่อมั่นดีขึ้นรับอากาศเย็น-ไฮซีซั่นปีใหม่

• โอเปกปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2567 และปี 2568 เหลือวันละ 1.82 ล้านบาร์เรล และ 1.54 ล้านบาร์เรล ลดลงจาก 1.93 ล้านบาร์เรล และ 1.64 ล้านบาร์เรลที่มีการคาดการณ์ใน ต.ค. ตามลำดับ ซึ่งเป็นการปรับลดอุปสงค์เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือน พ.ย.

• จีนเผยยอดปล่อยกู้ใหม่ ต.ค. ชะลอตัวลงเหลือเพียง 5 แสนล้านหยวน ต่ำกว่าที่ตลาดคาด เทียบกับ ก.ย. ที่ 1.59 ล้านล้านหยวน กดดันจากความต้องการระดมทุนภาคเอกชนที่ต่ำและความสามารถทำกำไรที่ลดลง

• รมช. คลังโต้ความเห็นจากสื่อต่างประเทศที่ระบุว่าบาทอ่อนค่ามากที่สุดในเอเชียเนื่องจากความกังวลต่อความอิสระของธปท. แต่มองว่าปัจจัยส่วนใหญ่มาจากภายนอกเป็นหลัก เช่น ผลการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ

• นายกฯ ญี่ปุ่นจะเตรียมงบราว 10 ล้านล้านเยน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI ในระยะ 10 ปีข้างหน้า เพื่อเร่งการเติบโตของการลงทุนทั้งในภาครัฐและเอกชน

กลยุทธ์การลงทุน

แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways Up โดยปัจจัยลบที่มีต่อเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศมีค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดีคาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะยังชะลอตัวลง ทำให้แนวโน้มกาปรับลดดอกเบี้ยยังไม่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงความชัดเจนในการดำเนินนโยบายของทรัมป์ซึ่งเป็นปธน. สหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งน่าจะยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป ทั้งนี้ผลกระทบจากความคาดหวังของนโยบบายรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจมหาภาคจะทำให้ตลาดมีความผันผวนสูงและอาจจะส่งผลกับทิศทาง Fund Flow โดยเฉพาะนโยบายระหว่างประเทศที่มีต่อจีน ส่วนปัจจัยในประเทศคาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยการเข้าสู่ช่วงโค้งสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”   

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways Up หลังปัจจัยลบในและต่างประเทศค่อนข้างจำกัด โดยในประเทศคาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยการเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 

1. หุ้น Earnings Play สำหรับเก็งกำไรระยะสั้นในโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 ซึ่งคาดกำไรจะเติบโตดี YoY และเราแนะนำ Outperform เลือก AWC BDMS CPALL BEM AOT  

2. หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกหลังทรัมป์คว้าชัยชนะเป็นปธน. สหรัฐฯ – AMATA WHA (นโยบายกำแพงภาษี-ย้ายฐานการผลิต), CPF AOT MINT (นโยบายลดภาษี-เพิ่มกำลังซื้อ และได้ประโยชน์จากดอลลาร์แข็งค่า)

3. หุ้นที่ปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์เป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนลดหย่อนภาษี แนะนำหุ้น SET100 ที่มี Div. Yield ขั้นต่ำ 3.5%, ESG Rating และ CG สูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และเติบโตในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO BCP ทั้งนี้แนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา

4. สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางและต้องการหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

DAILY TOP PICKS

CPF: 3Q67 คาดกำไรปกติที่ 6.3 พันลบ. เติบโตดีที่สุดในกลุ่มอาหาร หนุนจากราคาสัตว์บกต่างประเทศและในประเทศที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางต้นทุนอาหารสัตว์ระดับต่ำ นอกจากนี้ยังมี Upside มากที่สุดในกลุ่มจากวงจรการปรับลดดอกเบี้ยที่กำลังจะมาถึง และจะมี Downside จากการปรับขึ้นค่าแรงน้อยกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน

AU: 3Q67 กำไรทำนิวไฮและดีกว่าตลาดคาด ขณะที่ 4Q67 คาดยังเติบโตดี YoY หนุนให้ปี 2567 คาดมีกำไรโตเด่น 65%YoY และยังโตต่อ 18%YoY ในปี 2568 แรงหนุนมาหลักจากรับรู้ยอดขายจากช่องทางใหม่ๆ เช่น ยอดขายจากการบินไทยช่วง 1 ต.ค 2567 - 31 พ.ค. 2568 และยอดขายในร้าน 7-11 ซึ่งปีหน้ามีแผนวางสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 11.20 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 พ.ย. 2567 เวลา : 11:05:51
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 11:19 pm