(+) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงตึงเครียด ล่าสุดยูเครนมีการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ (ATACMS) โจมตีเป้าหมายทางทหารในแคว้นไบรอันสค์ของรัสเซียเป็นครั้งแรก ขณะที่ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้ลงนามอนุมัติการใช้อาวุธนิวเคลียร์ส่งผลให้ตลาดกังวลเรื่องสถานการณ์ความขัดแย้งอาจลุกลามไปยังชาติตะวันตกรวมถึงขยายวงเป็นสงครามนิวเคลียร์ และส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบ
(+) Kpler รายงานสัญญาณการนำเข้าน้ำมันดิบจีนมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น โดยคาดการณ์ว่าตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบของจีนจะปรับเพิ่มขึ้นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ในเดือน พ.ย. 67
(-) บริษัท Equinor เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันบางส่วนในแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Johan Sverdrup ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตกหลังเกิดเหตุไฟฟ้าดับในวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดเริ่มคลายกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว
(-) หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผย ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 4.75 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบหลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในยุโรป (ARA) ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 14 พ.ย. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 0.35 ล้านบาร์เรลสู่ระดับ 9.89 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ดี ราคาได้รับแรงหนุนจากตัวเลขนำเข้าน้ำมันเบนซินของออสเตรเลียปรับเพิ่มขึ้น 28.4% ในเดือน ก.ย. 67 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบหลังจีนรายงานตัวเลขส่งออกน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานเดือน ต.ค. 67 ลดลง 2% เทียบเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 1.93 ล้านตัน อย่างไรก็ดี ตลาดคาดอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค. 67 หลังสิ้นสุดฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงประจำปี
ข่าวเด่น