แสนสิริ อสังหาฯ รายแรกในประเทศไทย ยกระดับการพัฒนาที่อยู่อาศัยไปพร้อมกับการรักษ์โลก ต่อยอดแนวคิดความยั่งยืน จากโครงการแนวราบขยายผลสู่โครงการแนวสูง เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้ผู้อยู่อาศัย
Sansiri Green Living Design บ้านและคอนโดที่ถูกสร้างมาด้วยแนวคิดที่ยั่งยืน สามารถลดการใช้พลังงานได้สูงสุด 42% ต่อ 1 หลัง และให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว ที่เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า* จากมาตรฐาน
แสนสิริ ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย มุ่งสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้เป้าหมายสูงสุดสู่การเป็นองค์กรอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050 ผ่านแคมเปญ “Sansiri Green Living Design” ในคอนเซปต์ #ชีวิตติดGlamบ้านต้องติดGreen พร้อมยกระดับแนวคิดในการพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืนสู่คอนโดมิเนียมครั้งแรก มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ผ่าน 2 แกนหลัก “Energy Saving” และ “Green Space” ลดการใช้พลังงานของที่อยู่อาศัยและเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย พร้อมส่งมอบบ้านและคอนโดมิเนียมที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และรองรับการอยู่อาศัยของลูกบ้านอย่างดีที่สุด
Sansiri Green Living Design 2024 การอยู่อาศัยในบ้านและคอนโดที่ถูกสร้างมาด้วยแนวคิดด้านความยั่งยืนที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและตัวคุณเอง พร้อมสร้างการรับรู้ถึงประโยชน์ที่ทุกคนจะได้รับจากการอยู่อาศัยในบ้านติดกรีน นำเสนอผ่านคอนเซปต์ #ชีวิตติดGlamบ้านต้องติดGreen ซึ่งแคมเปญนี้มีแนวคิดจากการนำเทรนด์การใช้ชีวิตของคนในยุคนี้ที่ใช้ชีวิตแบบ “ติด Glam” (Glamorous) ที่จะมีบ้านสวยเก๋อย่างเดียวไม่พอ แต่บ้านต้องติดกรีนด้วย มีการเล่นคำให้มีจุดเด่นในการสื่อสารและมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเปลี่ยนจากคำว่า SALE เป็น SAVE (ลดพลังงาน) หรือ CASHBACK เงินคืน เปลี่ยนเป็น GREENBACK มอบพื้นที่สีเขียวและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกบ้าน พร้อมทั้งสื่อสารถึงประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ เช่น SAVE เงินในกระเป๋าได้แบบจุกๆ เหลือเงินช้อปฉ่ำแบบไม่ต้องรอ SALE จากการประหยัดค่าไฟในระยะยาว ได้พื้นที่สีเขียวเพิ่มสูงกว่า 4 เท่า ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี
หลังจากแสนสิริเดินหน้ามอบบ้านสีเขียวให้กับลูกบ้านในโครงการเศรษฐสิริกว่า 10 โครงการ ในปี 2023 ล่าสุด ลุยต่อยอดความสำเร็จสู่การพัฒนาบ้านแนวคิดที่ยั่งยืนในเซ็กเม็นต์อื่นๆ อาทิ นาราสิริ, ณรินสิริ, บูก้าน, เศรษฐสิริ และ เอลซ์ รวมถึงขยายผลสู่คอนโดมิเนียมแบรนด์เดอะเบส (THE BASE) นำร่องที่ เดอะ เบส วงศ์สว่าง เป็นที่แรก โดยมีกลไกลหลักสำคัญที่ใช้ในการส่งมอบบ้านที่ยั่งยืน คือ 3 Green Framework ได้แก่ 1. Green Procurement คือ การเลือกใช้วัสดุ Green Product และเลือกคู่ค้าที่ใส่ใจกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน 2. Green Construction ที่มีขั้นตอนและเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อโลก 3. Green Architecture & Design หรือนวัตกรรมการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ โดยการต่อยอดดำเนินการบ้านแนวคิดที่ยั่งยืนนี้ มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ผ่าน 2 แกนหลัก ได้แก่ Energy Saving ประหยัดพลังงานแบบจัดเต็ม ผ่านแนวคิดการออกแบบ Sansiri Green living Design และการเลือกวัสดุและอุปกรณ์ติดตั้ง Features ที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ซึ่งทำให้โครงการจากแสนสิริสามารถลดการใช้พลังงานสูงสุดถึง 42% จากโครงการบ้าน (ณรินสิริ) และ 10% จากโครงการคอนโดมิเนียม (THE BASE) ที่จะช่วยลูกบ้านประหยัดค่าไฟในระยะยาว และมากไปกว่าเรื่องการลดพลังงาน คือพื้นที่สีเขียว หรือ “Green Space” คืนความเขียวฉ่ำให้ชีวิตได้สดชื่นในทุกวัน ผ่านแนวคิดการออกแบบไม่ว่าจะเป็น การนำต้นไม้ใหญ่ และพื้นที่สีเขียวมาผสานให้เข้ากับการอยู่อาศัย ทั้งในส่วนกลางและบริเวณบ้าน ที่พร้อมให้ทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น โดยมีแนวคิด LIVING-WELLที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ ส่งผลให้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มสูงกว่า 4 เท่าจากมาตรฐาน ในโครงการแนวราบ และ 35% ของที่ดินโครงการแนวสูงตามมาตรฐาน
แคมเปญ Sansiri Green Living Design ถือเป็นหนึ่งใน Key Driver ในการยกระดับการพัฒนาโครงการที่ตอบสนองต่อเป้าหมายขององค์กร รวมไปถึงการคํานึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นศุนย์กลางและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
* พื้นที่สีเขียวคำนวณเปรียบเทียบกับข้อกำหนดเรื่องขนาดพื้นที่สีเขียวสำหรับโครงการจัดสรร
* ค่าการประหยัดพลังงานขึ้นอยู่กับรายการติดตั้งผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันของแต่ละโครงการ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
#SansiriSustainability #SansiriGreenLivingDesign #Sansiri #Sansiri40years #YouAreMadeForLife
ข่าวเด่น