แบงก์-นอนแบงก์
Scoop: หนี้เสียพุ่งแตะ 1.2 ล้านล้านบาท สะท้อนภาระหนี้บ้านผ่อนไม่ไหว "กสิกร" - "ธอส." ออกสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือ


นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) หรือ NCB ได้รายงานถึงภาระหนี้สินภาคครัวเรือนจากสถาบันการเงิน 157 แห่งที่ครอบคลุมประชากรกว่า 30 ล้านคนทั่วประเทศ พบว่า ในช่วงไตรมาส 3/2567  หนี้ครัวเรือนในระบบเครดิตบูโร อยู่ที่ 13.6 ล้านล้านบาท จากยอดหนี้ครัวเรือนไทยทั้งหมด 16.3 ล้านล้านบาท ซึ่งแม้จะลดลง 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ามีอัตราการเติบโตของหนี้อยู่ที่ 0.5% 

ขณะที่หนี้ NPL หรือหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แตะอยู่ที่ระดับ 1.2 ล้านล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วน 8.8% ของหนี้รวม 13.6 ล้านล้านบาท) โดยหนี้ NPL เพิ่มขึ้นจาก 7.7% ในไตรมาส 4/2566 มาสู่ 8.8% ในไตรมาส 3 ของปีนี้ อีกทั้งเพิ่มขึ้นจากทั้งช่วงไตรมาสก่อนหน้า 3.4% และเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 14.1% 

ซึ่งทิศทางของหนี้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนี้ สัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกับการปรับเพิ่มขึ้นของหนี้ NPL ธนาคารในกลุ่มสินเชื่อรายย่อยทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งด้านนางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า สินเชื่อทั้ง 2 ประเภทเป็นพอร์ตที่ธนาคารต่างยกเป็นปัญหาสำคัญ เพราะมีโอกาสสูงที่สินเชื่อบ้านและสินเชื่อเช่าซื้อจะพัฒนาไปเป็นหนี้ SM (Special Mention Loan) หรือหนี้ที่ค้างชำระ 1-3 เดือน และค้างชำระเกิน 3 เดือน หรือก็คือกลายเป็นหนี้ NPL ตามที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ เนื่องด้วยความสามารถในการชำระหนี้ของคนไทยนั้นลดต่ำลง จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึง และการทรงตัวของภาคธุรกิจ ที่กระทบต่อรายได้ที่ลดลงเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ยังคงอยู่อย่างภาระการผ่อนบ้าน ที่เป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่

โดยขณะนี้สมาคมธนาคารไทย (TBA) ธนาคารสมาชิก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง กำลังเตรียมออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ไม่ให้ตกไปเป็นหนี้ NPL โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรถยนต์ โดยคาดว่าจะเป็นการลดค่างวด และการพักดอกเบี้ย เพื่อเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระ

 
แต่ทั้งนี้ในส่วนของธนาคารกสิกรไทย ที่ให้ความสำคัญกับการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ได้ทำการเปิดตัวแคมเปญสินเชื่อบ้านสีเขียว ที่ได้ร่วมมือกับบริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด (SCG) และบริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (H SEM) จัดโปรโมชั่นหนุนลูกค้าที่ซื้อบ้านประหยัดพลังงานจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่ร่วมรายการจำนวน 725 โครงการ สามารถขอสินเชื่อบ้านสีเขียวจากธนาคารกสิกรไทย ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 110% และฟรีค่าประเมินหลักประกัน พร้อมกับส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการจาก SCG Home Experience ในหมวดประหยัดพลังงานมูลค่าสูงสุด 10,000 บาท และส่วนลดยานพาหนะไฟฟ้าพลังงานสะอาดจาก H SEM มูลค่าสูงสุดอีก 11,000 บาท เพื่อสนับสนุนการสร้าง Green Ecosystem และยังเป็นการช่วยเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระ ซึ่งเป็นสินเชื่อที่เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดหนี้ NPL ที่คงตัวสูงในระดับปัจจุบัน

 
เช่นเดียวกับทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ก็ได้สนับสนุนให้ผู้สูงอายุ สามารถเข้าถึงสินเชื่อและมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุให้ดีขึ้น ด้วยการจัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ประกอบด้วย

1. โครงการบ้าน ธอส. สร้างสุขเพื่อผู้สูงวัย ปี 2567 : สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมบ้านตามแบบบ้านผู้สูงอายุและผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือนแรก เฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 2.75% ระยะเวลา 40 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้น 4,300 บาทต่อเดือน
 
2. โครงการสินเชื่อ Senior Home 4U ปี 2567 : สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ต้องการกู้ซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.90% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก 3.30% ระยะเวลา 20 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้น 6,300 บาทต่อเดือน
 
3. โครงการสินเชื่อ Senior Home 2U ปี 2567 : สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป เป็นสัญญาแรก โดยไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส.และสถาบันการเงินอื่น อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 3.00% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 3.416% ระยะเวลา 40 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้น 4,400 บาทต่อเดือน
 
4. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) : สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป สามารถนำที่อยู่อาศัยของตนเองที่ปลอดจำนองมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ โดยไม่พิจารณารายได้ของผู้กู้ วงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 10 ล้านบาท กรณีที่ดินพร้อมอาคาร ให้กู้ไม่เกิน 50% ของราคาประเมินที่ดินและอาคาร กรณีห้องชุด ให้กู้ไม่เกิน 30% ของราคาประเมินห้องชุด อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ระยะเวลาการให้กู้สูงสุดไม่เกิน 25 ปี
 
โดยทั้งสินเชื่อจากทางธนาคารกสิกรไทย และจากทางธนาคารธอส.นี้ จะมีส่วนแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้บ้าน และยังช่วยให้ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของลูกหนี้เพิ่มขึ้น อันเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาเรื่องของหนี้ครัวเรือน หนี้ NPL และยังสอดรับกับทิศทางการดำเนินงานของรัฐบาลในการเดินหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในอนาคต

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 พ.ย. 2567 เวลา : 12:26:25
23-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 23, 2025, 3:36 pm