กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเจรจา FTA ไทย-EU รอบ 4 25-29 พ.ย.นี้ เร่งเดินหน้าประชุมระดับหัวหน้าคณะและประชุมกลุ่มย่อย 20 กลุ่ม ให้คืบหน้าตามเป้า สอดรับนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเดินหน้าสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน พร้อมจัดสัมมนาให้ความรู้เรื่องสินค้าที่ใช้แล้วนำมาปรับปรุงคุณภาพให้เหมือนของใหม่ ให้กับภาครัฐ ภาคเอกชน เเละผู้สนใจ
.jpg)
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (EU) รอบที่ 4 ระหว่างวันที่ 25-29 พฤศจิกายนนี้ ณ กรุงเทพฯ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการเดินหน้าสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน โดย EU ถือเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และมีประเทศสมาชิกมากถึง 27 ประเทศ สำหรับการเจรจารอบนี้ จะประกอบด้วยการประชุมระดับหัวหน้าคณะและการประชุมกลุ่มย่อย 20 กลุ่ม โดยทีมเจรจาฝ่ายไทยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ จะมีการจัดสัมมนาเรื่องสินค้าที่ใช้แล้วนำมาปรับปรุงคุณภาพให้เหมือนของใหม่ (Remanufactured goods) โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก EU ร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ที่สนใจ ในวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ณ สถานที่จัดประชุมอีกด้วย
สำหรับผลการเจรจาทั้งสามรอบที่ผ่านมา ในภาพรวมมีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากทีมเจรจาของทั้งสองฝ่ายมีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ประสานหารือกันอย่างใกล้ชิด และประชุมระหว่างรอบเพื่อให้การเจรจารอบนี้มีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ EU เป็นคู่ค้าอันดับ 5 ของไทย รองจากอาเซียน จีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับ EU มีมูลค่า 41,582.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 1.43 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกไป EU มูลค่า 21,838.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 4.21 และไทยนำเข้าจาก EU มูลค่า 19,743.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายร้อยละ 8.50
สำหรับในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2567) การค้าระหว่างไทยกับ EU มีมูลค่า 32,613.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2.05 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกไป EU มูลค่า 18,087 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8 และไทยนำเข้าจาก EU มูลค่า 14,526.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 4.51
ข่าวเด่น