เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "Downside จำกัดแถว 1430 จุด"



คาดดัชนีมี Downside จำกัด บริเวณแนวรับ 1430-1440 จุด และมีโอกาสฟื้นตัว โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) กลุ่มพลังงานที่คาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น 2) Bond Yield สหรัฐฯ ปรับตัวลง และ 3) ปัจจัยการเมืองในประเทศที่คลายกังวล ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1460 และ 1470 จุด ตามลำดับ หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเห็นการฟื้นตัวชัดขึ้น

ประเด็นสำคัญ

• ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ เดือนพ.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือน หนุนจากความหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการออกนโยบายที่เป็นมิตรกับภาคธุรกิจมากขึ้นจากรัฐบาลของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ในปีหน้า

• สศช. มองไทยอาจจตกเป็นเป้าหมายการเก็บภาษีนำเข้าโดยสหรัฐฯ เนื่องจากไทยเกินดุลการค้าเป็นอันดับที่ 12 ถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์

• AOT เผยแผนลงทุนระยะ 10 ปี มูลค่ากว่า 2 แสนลบ. ช่วง 5 ปีแรกเร่งขยาย "East Expansion-ดอนเมือง เฟส 3" คาดปริมาณผู้โดยสารปีหน้าเกิน 130 ล้านคนจากที่รองรับได้ 120 ล้านคน 

• คปภ. คาดปี 2568 จะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง 9.8 แสนลบ. เติบโต 3.9% และคาดปี 2569 เบี้ยประกันภัยรับโดยตรงอยู่ที่ 1 ล้านลบ. โดยธุรกิจประกันภัยสุขภาพมีความโดดเด่นที่สุด ซึ่งสิ้นปีนี้จะมีเบี้ยประกันภัยสุขภาพโดยตรงที่ 1 แสนลบ. และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

• Bloomberg เผยผลสำรวจของนักวิเคราะห์ ส่วนใหญ่คาดจีนจะมียอดส่งออก 4Q67 ปรับขึ้น 7% เพิ่มขึ้นจาก 5% ในการสำรวจก่อนเลือกตั้งปธน. สหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ยอดส่งออกปีนี้แตะระดับ 3.55 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่าสถิติสูงสุดที่ทำไว้ในปี 2565

• ผลสำรวจเฟดชี้ผู้เชี่ยวชาญกังวลหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ, ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และปัญหาการค้าระหว่างประเทศ โดยมองว่าเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อเสถียรภาพของภาคการเงิน

• COP29 มีข้อสรุปจะหนุนกลุ่มประเทศยากจนรับมือผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมปีละ 3 แสนล้านดอลลาร์ถึงปี 2578 และตกลงกฎระเบียบการซื้อขาย Carbon Credit ผ่าน UN ซึ่งจะเริ่มต้นใช้ได้ในปีหน้า

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ทั้งนี้ปัจจัยต่างประเทศยังค่อนข้างจำกัด โดยตลาดคาดดัชนี PCE ต.ค. ของสหรัฐฯ จะทรงตัวใกล้เคียงกับ ก.ย. ที่ระดับ 0.2%MoM และดัชนี PMI ภาคการผลิต พ..ย. ของจีนจะขยายตัวเล็กน้อยหรือใกล้เคียง ต.ค. ที่ระดับ 50.1 ส่วนกระแสเงินทุนคาดยังมีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่องจากตลาดหุ้น EM รวมทั้งไทยและจีน สืบเนื่องมาจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีของทรัมป์ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังอยู่ในช่วง บจ. ให้แนวโน้มผลประกอบการ 4Q67 และปี 2568 พร้อมรอติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ อีกทั้งตัวเลขส่งออกไทย ต.ค. คาดจะเติบโตเร่งตัวขึ้นเป็น 5.5%YoY จาก 1.1%YoY ใน ก.ย. ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบหลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ โดย Fund Flow ยังมีแนวโน้มไหลออกจากตลาดหุ้น EM และในประเทศยังอยู่ในช่วง บจ. ให้แนวโน้มผลประกอบการและรอมาตรการกระตุ้นศก. เพิ่มเติมของรัฐ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 

1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค, ท่องเที่ยว และมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนของภาครัฐ แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT CRC HMPRO TNP) กลุ่มท่องเที่ยว (AWC AOT MINT) และกลุ่มธนาคาร (BBL)

2. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองมีโมเมนตัมกำไร 4Q67 จะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งเราแนะนำ Outperform เลือก GULF OSP CBG AMATA AU TIDLOR BCP 

3. หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Div. Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating และ CG สูง อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO BCP

4. สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางและต้องการหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

DAILY TOP PICKS

BBL: เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร โดยมองมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจาก 1) Valuation ถูกที่สุด 2) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุด และ 3) สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุด โดยคาดสินเชื่อจะฟื้นตัวเติบโตได้ดีใน 4Q67 ซึ่งล่าสุด ต.ค. สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่งที่สุดที่ 1.4%MoM แรงหนุนจากสินเชื่อกิจการต่างประเทศและสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่  

GULF: 4Q67 คาดกำไรจะทำสถิติสูงสุดอีกครั้งจากการขยายกำลังการผลิต โดยมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจากผลประโยชน์จากการควบรวมกิจการกับ INTUCH ที่จะหนุนให้งบดุลของบริษัทปรับตัวดีขึ้นและช่วยสนับสนุนการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศที่กำลังจะมาถึง รวมถึงการเริ่มต้นวงจรอัตราดอกเบี้ยขาลง
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 พ.ย. 2567 เวลา : 10:56:19
27-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 27, 2024, 5:41 am