กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระชับความร่วมมือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าพบ ผบ.ตร. หารือแนวทาง มาตรการ ข้อกฎหมาย และความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงาน เร่งปราบปราม ‘นอมินี’ และ ‘บัญชีม้านิติบุคคล’ กำจัดอาชญากรทางเศรษฐกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ลดปัญหาทำลายเศรษฐกิจประเทศ สร้างความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการไทย และลดความสูญเสียทรัพย์สินของประชาชน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเข้าพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ว่า “การเข้าพบ ผบ.ตร.ครั้งนี้ มีประเด็นหลัก คือ การหารือแนวทาง มาตรการ ข้อกฎหมาย และความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องปรามมิให้คนไทยหรือนิติบุคคลไทยมีการกระทำในลักษณะให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจ หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) โดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 รวมทั้ง การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล ซึ่งทั้ง 2 ปัญหาดังกล่าวล้วนสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจประเทศ ผู้ประกอบการไทย และประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก และรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้ โดยนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นประธาน ซึ่ง รมว.พณ.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (NOMINEE) โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นประธานอนุกรรมการ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมการจัดหางาน กรมการท่องเที่ยว กรมที่ดิน และกรมสรรพากร ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแผนการดำเนินการร่วมกันในระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลใน การสืบสวน สอบสวน จับกุม ผู้กระทำความผิด ซึ่งขอบคุณที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดี
ผบ.ตร.ยืนยันให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ เพราะเป็น 1 ในนโยบายการบริหารราชการ 15 ข้อ ที่ ผบ.ตร.เน้นย้ำและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อเร่งปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้กับพี่น้องประชาชน โดยเน้นการทำงานอย่างใกล้ชิดในมิติที่ลึกขึ้น ทั้งการร่วม * กำหนดมาตรการแนวทางการดำเนินงานทั้งระยะสั้น กลาง ยาว * การแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลสำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลในการสืบสวน สอบสวน จับกุมผู้กระทำความผิด ซึ่งจะทำให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ครบถ้วนขึ้น *การลงพื้นที่ตรวจสอบ/ตรวจค้นนิติบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยง * การบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มประสิทธิภาพ และ * การนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษอย่างจริงจัง
อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า ในส่วนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมร่วมมือกับ สตช.และหน่วยงานพันธมิตรอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและปราบปรามปัญหา ‘นอมินี’ และ ‘บัญชีม้านิติบุคคล’ ให้หมดสิ้นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยกรมฯ จะเพิ่มความเข้มงวดด้านการจดทะเบียนธุรกิจอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลที่อาจจะเกิดขึ้นและปิดโอกาสไม่ให้มิจฉาชีพนำความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลไปใช้หลอกลวงประชาชน รวมถึงติดตามตรวจสอบนิติบุคคลที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงในการเป็นนอมินี และร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิด นอกจากนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญของกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบธุรกิจนอมินีและบัญชีม้านิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยสามารถนำองค์ความรู้และข้อมูลดังกล่าวไปพัฒนารูปแบบการตรวจสอบหาพยานหลักฐานในการกระทำความผิดและเทคนิคในการพิจารณาความผิดปกติของธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นนอมินีหรือรู้ทันกลอุบายของมิจฉาชีพที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้เสียหายได้อย่างทันท่วงที ลดปัญหาทางสังคม และลดการทำลายเศรษฐกิจในประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่อง การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคลและการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE) กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทั้งสองหน่วยงานจะทำงานร่วมกันในการสืบสวนสอบสวนการเปิดบัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคล และในกรณีที่มีคนไทยรับจ้างเป็นนอมินีให้แก่คนต่างชาติเพื่อเอื้อในการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายหรือหลบเลี่ยงกฎหมายของไทย
การแก้ไขปัญหาบัญชีม้าและนอมินีในนิติบุคคลเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ด้วยความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานพันธมิตรทุกภาคส่วนที่บังคับใช้กฎหมายหรือสนับสนุนป้องปราม จึงทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถลดช่องทางการกระทำผิดของมิจฉาชีพ ลดความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความโปร่งใสให้กับระบบธุรกิจของประเทศ” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวเด่น