(+) ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่อง จากการประกาศนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของทางการจีน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนนโยบายครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จะมีการใช้นโยบายดังกล่าวควบคู่ไปกับนโยบายทางการคลังเชิงรุก โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายตัวของอุปสงค์และกระตุ้นการบริโภคในประเทศ อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังไม่มีการประกาศรายละเอียดของนโยบายออกมาอย่างเป็นทางการ ขณะที่ตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบในจีนของเดือน พ.ย. 67 ปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน แสดงถึงอุปสงค์เริ่มฟื้นตัวของจีน อีกทั้งตลาดคาดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 ธ.ค. 67 นี้ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันดิบในตลาด
(-) ราคายังคงได้รับแรงกดดัน หลังกลุ่มกบฏที่โค่นล้มอำนาจของประธานาธิบดีแห่งซีเรียได้สำเร็จ ประกาศจัดตั้งรัฐบาลและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยของประเทศ โดยวานนี้ (10 ธ.ค. 67) ธนาคารและแหล่งผลิตน้ำมันส่วนใหญ่ของประเทศกลับมาดำเนินการอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดคลายกังวลต่อสถานการณ์ความไม่มั่นคงในซีเรีย
(-) สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณ น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ธ.ค. 67 ปรับ เพิ่มขึ้น 0.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางจากนักวิเคราห์คาดการณ์ว่า จะปรับลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดตัวเลขส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนในเดือน ธ.ค. 67 มีแนวโน้มลดลงกว่า 760,000 เมตริกตัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่อุปสงค์ในภูมิภาคโดยเฉพาะจากอินโดนีเซียในช่วงสิ้นปียังคงแข็งแกร่ง
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความตัองการใช้น้ำมันดีเซลของอินเดียในเดือน พ.ย. 67 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 6.88% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมการผลิตและการเกษตรในประเทศ ขณะที่อุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสิ้นปี
ข่าวเด่น