
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (B2B Franchise) รุ่นที่ 28 พัฒนาความรู้ครอบคลุมทุกมิติของธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งการสร้างแบรนด์ การพัฒนาร้านต้นแบบ การทำสัญญาแฟรนไชส์ ไปจนถึงกลยุทธ์การตลาด เรียนรู้ทุกแง่มุมของธุรกิจแฟรนไชส์ พร้อมผลักดันผู้ประกอบการแฟรนไชส์รายใหม่กว่า 130 คน เข้าตลาดกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (B2B Franchise) รุ่นที่ 28” ว่า หลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ ความเข้าใจในระบบแฟรนไชส์ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ การสร้างแบรนด์ การบริหารจัดการร้านค้า การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ ไปจนถึงการบริหารจัดการร้านค้าแฟรนไชส์ ตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจผ่านระบบแฟรนไชส์ และผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์
ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจแฟรนไชส์กว่า 660 กิจการ มีจำนวนสาขาแฟรนไชส์ กว่า 81,000 สาขา ทั่วประเทศ ครอบคลุมหลากหลายประเภทธุรกิจ ทั้ง อาหาร บริการ ค้าปลีก เครื่องดื่ม การศึกษา ความงามและสปา โดยมีธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านการพัฒนาจากกรมฯ และสามารถขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศแล้ว 46 ธุรกิจ ใน 31 ประเทศ และในระยะเวลาอันใกล้นี้ กรมมีแผนจะนำผู้ประกอบการ แฟรนไชส์ที่มีศักยภาพไปจัดแสดงและเจรจาธุรกิจในตลาดระดับสากลอีกด้วย


เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทย กรมฯ จึงจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (B2B Franchise) รุ่นที่ 28 ระหว่างวันที่ 11 ธันวาคม 2567 ถึง วันที่ 2 เมษายน 2568 เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจถึงขั้นตอนในการพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ และยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สามารถจัดทำแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์และสร้างคู่มือปฏิบัติงานในระบบแฟรนไชส์ (Franchise Operation Manual ซึ่งประกอบด้วยความรู้ 4 Module ได้แก่ การบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ กลยุทธ์ทางการตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ และ การสร้างคู่มือ แผนธุรกิจ และสัญญาแฟรนไชส์ พร้อมเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจแฟรนไชส์ และเจ้าของแฟรนไชส์ตัวจริงที่ประสบความสำเร็จแล้ว มาร่วมให้ความรู้และแชร์ประสบการณ์ อาทิ แบรนด์ลูกชิ้นไจแอ้นระเบิด Otteri และ Kamu Tea โดยก่อนจบหลักสูตรผู้เข้าร่วมอบรมจะต้องนำเสนอแผนธุรกิจ (Pitching) แก่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญเพื่อร่วมกันวิเคราะห์ความเป็นไปได้และแนวทางการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยมีผู้ผ่านคุณสมบัติการคัดเลือก จำนวน 90 กิจการ รวม 137 คน

ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญของกรมฯ คือ การยกระดับธุรกิจของคนไทยโดยใช้ระบบแฟรนไชส์เป็นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจด้วยระบบสาขาอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างศักยภาพในการลงทุน และมาตรฐานการสร้างธุรกิจแฟรนไชส์ ให้สามารถนำไปใช้ในการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาองค์กร จนนำไปสู่การมีจำนวนสาขาและแฟรนไชส์ซีเพิ่มขึ้น และสร้างโอกาสทางการตลาดในการขยายธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงผลักดันให้นักลงทุนตั้งเป้าหมายในการสร้างธุรกิจแฟรนไชส์ไทยให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีที่ยืนในตลาดโลก ด้วยการต่อยอดธุรกิจออกไปสู่สากล

อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้ายว่า หลักสูตรการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (B2B Franchise) เป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และได้มีการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน การสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกของการเป็นเจ้าของธุรกิจ แฟรนไชส์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ประตูสู่การเริ่มต้นธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่มาพร้อมกับความท้าทายเฉพาะตัว
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2567) มีผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (B2B Franchise) จำนวน 1,205 ราย แบ่งเป็น ธุรกิจอาหาร 531 ราย (44%) ธุรกิจบริการ 194 ราย (16%) ธุรกิจค้าปลีก 173 ราย (14%) ธุรกิจเครื่องดื่ม 157 ราย (13%) ธุรกิจความงาม/สปา 82 ราย (7%) และธุรกิจการศึกษา 68 ราย (6%)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สายด่วน 1570 โทรศัพท์ 0 2547 5953 และ https://franchise.dbd.go.th/th
#SuperDBD #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์
ข่าวเด่น