นับเป็นปัจจัยสำคัญในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง กรุงเทพฯ 19 ธันวาคม 2567 – เจแอลแอล (NYSE: JLL) ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก เผยบทวิเคราะห์จากผลสำรวจ Future of Work 2024 ที่เจาะลึกประเด็นสำคัญเกี่ยวกับโลกของการทำงาน ตั้งแต่เรื่องเทคโนโลยี การออกแบบ ไปจนถึงแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG: Environmental, Social, and Governance)
จากการวิเคราะห์ของเจแอลแอลพบว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผู้เช่าพื้นที่สำนักงานในไทยหันมาย้ายไปเช่าอาคารสมัยใหม่มากกว่าอาคารที่เช่าอยู่ในปัจจุบันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งคาดว่า แนวโน้มนี้จะดำเนินต่อเนื่องไปถึงปี 2571 โดยมีแรงหนุนจากการเปิดตัวอาคารสำนักงานใหม่ระดับพรีเมียมในย่านธุรกิจหลัก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับองค์กรบริษัทในการทบทวนกลยุทธ์ Future of Work เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงาน พร้อมทั้งปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ESG ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
“พื้นที่สำนักงานรูปแบบใหม่ที่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมากสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิทัศน์ของสถานที่ทำงาน” นายไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล ประจำประเทศไทยและอินโดนีเซีย กล่าว “นอกจากนี้ ยังนับเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับองค์กรต่าง ๆ ในการปรับกลยุทธ์การออกแบบพื้นที่ทำงานให้ตอบโจทย์พนักงานทั้งในด้านความยืดหยุ่นและความยั่งยืน พร้อมทั้งส่งเสริมประสิทธิภาพและนวัตกรรมในการทำงานอีกด้วย”
ผลสำรวจ Future of Work 2024 ระบุว่า องค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญกับการออกแบบสถานที่ทำงานในฐานะปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร แนวโน้มนี้เริ่มเห็นชัดขึ้นสำหรับในประเทศไทย จากความต้องการ “สถานที่ทำงานในอุดมคติ” (Destination Workplaces) ที่ผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การใช้งานอย่างอเนกประสงค์ และแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกัน ผลสำรวจ พบว่า 65% ขององค์กรทั่วโลก มีแผนเพิ่มการลงทุนในด้านความยั่งยืนของสถานที่ทำงาน ขณะที่เกือบ 80% คาดว่าสำนักงานของตนจะใช้งาน AI ได้อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2573 ซึ่งแนวโน้มเหล่านี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในการพัฒนาอาคารสำนักงานสมัยใหม่ในไทย
“การออกแบบสถานที่ทำงานกำลังกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้บริษัทในประเทศไทยบรรลุเป้าหมายทั้งในเรื่องการดึงบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงาน รวมถึงเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม” นายอนาวิล เจียมประเสริฐ หัวหน้าแผนกบริการงานวิจัยและให้คำปรึกษา บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จํากัด (JLL) กล่าว
“ความต้องการพื้นที่สำนักงานที่ใหม่และทันสมัย สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในการให้ลำดับความสำคัญในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งสถานที่ทำงานในปัจจุบันจะต้องสามารถสะท้อนคุณค่าขององค์กร สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่พนักงาน และมีส่วนร่วมในพันธกิจด้าน ESG ที่ครอบคลุมมากขึ้น”
ความสนใจในเรื่องความยั่งยืนที่ขยายตัวมากขึ้นกำลังส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงพื้นที่เดิม การออกแบบหมุนเวียน (Circular Design) ที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการสร้างอาคารที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อาคารสำนักงานยุคใหม่ในประเทศไทยเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ นำแนวคิดเหล่านี้ไปปรับใช้ พร้อมช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน งานวิจัยยังพบว่า พื้นที่ทำงานที่ออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นที่นิยมภายในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดย 71% ของคนเจเนอเรชั่น Z และมิลเลนเนียลให้ความสำคัญกับตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยหรือที่ทำงาน
“พื้นที่สำนักงานในปัจจุบันต้องทำมากกว่าแค่รองรับการทำงาน แต่ยังต้องสร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรม และแสดงถึงความรับผิดชอบขององค์กรอีกด้วย" นายสตีเฟน เทเลอร์ กรรมการผู้จัดการ บริการบริหารโครงการก่อสร้าง ออกแบบ และตกแต่ง ประจำประเทศไทย บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ แอ๊ดไวซอรี่ จำกัด กล่าว “งานวิจัยของเราเน้นย้ำถึงศักยภาพของการออกแบบที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นหลักเพื่อเปลี่ยนสถานที่ทำงานให้เป็นสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมสุขภาวะที่ดี และตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน”
ความต้องการพื้นที่สำนักงานระดับพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยสะท้อนถึงแนวโน้มในระดับภูมิภาคและทั่วโลกที่มุ่งเน้นสภาพแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพสูง โดย 64% ขององค์กรที่ตอบแบบสอบถามคาดว่าจำนวนพนักงานจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2573 และมากกว่าครึ่งหนึ่งคาดว่าจะขยายพื้นที่สำนักงานของตน การมีสำนักงานที่ทันสมัยและสามารถปรับตัวได้จึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายเหล่านี้
รายงานวิจัย Future of Work 2024 ของเจแอลแอล ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการออกแบบสถานที่ทำงานที่ส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายขององค์กร ตั้งแต่การเพิ่มความพึงพอใจของพนักงานจนถึงการปฏิบัติตามข้อผูกพันด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ขณะที่ตลาดสำนักงานในประเทศไทยยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจต่าง ๆ จึงมีโอกาสในการเป็นผู้นำด้านการสร้างสถานที่ทำงานแห่งอนาคต
การสำรวจนี้ จัดทำขึ้นทุกสองปีตั้งแต่ปี 2554 โดยได้ศึกษาถึงโลกของการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป และชี้โอกาสในการลงทุนในการออกแบบสถานที่ทำงานที่สามารถเสริมสร้างความพึงพอใจ สุขภาวะที่ดี และประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ปีนี้การสำรวจได้วิเคราะห์ลำดับความสำคัญ ความท้าทาย และกลยุทธ์ของผู้นำธุรกิจและบริษัทอสังหาริมทรัพย์ (CRE: Corporate Real Estate) กว่า 2,300 คนทั่วโลก สำหรับข้อมูลและอัปเดตเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเจแอลแอล ประเทศไทย https://www.jll.co.th/
ข่าวเด่น