(-) ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีการส่งสัญญาณระมัดระวังการผ่อนคลายนโยบายการเงินไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่ระดับ 4.75% ในการประชุมเดือน ธ.ค. 67 ตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้ จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 8 เดือน และส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2568
(-) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยหลังเกิดความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากคาดกว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากนโยบายต่างๆ รวมถึงการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของญี่ปุ่น
(-) นักวิเคราะห์จาก JP Morgan รายงานการเติบโตความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในเดือน ธ.ค. 67 จนถึงปัจจุบันต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 700,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนั้นแล้ว ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้ปรับเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
(+) อิสราเอลโจมตีท่าเรือและโครงสร้างพลังงานในเยเมนที่ควบคุมโดยฮูตีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้การยิงขีปนาวุธจากฮูตีที่โจมตีอิสราเอลก่อนหน้านี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน อีกทั้งอิสราเอลยังขู่ว่าจะโจมตีฮูตีเพิ่มอีกหลังจากการโจมตีของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันเบนซิน ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ธ.ค. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 222 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันเบนซินช่วงเทศกาลปลายปีในซาอุดีอาระเบียจะยังอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนเดือน พ.ย. 67 อยู่ที่ 40,000 ตัน ปรับลดลง 16.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า นอกจากนั้นแล้วตลาดคาดว่าการส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือน ธ.ค. 67 จะยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากการลดการคืนภาษีสำหรับการส่งออกน้ำมัน
ข่าวเด่น