เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "โอกาสฟื้นตัวได้ต่อ"


 

คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อจากแรงหนุน 1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน 2) ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน และ 3) Sentiment บวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดย SET มีลุ้นกลับขึ้นมาทดสอบแถวบริเวณ 1400 จุด อีกครั้ง ด้านแนวรับอยู่ที่ 1380 และ 1373 จุด ตามลำดับ คาดยังเป็นจุดรองรับได้

ประเด็นสำคัญ

• ธปท. เผยรายงานระบบการเงินปี 2567 มีเสถียรภาพ ฐานะการเงินมั่นคง จับตาความเสี่ยง สินเชื่อชะลอ, คุณภาพสินเชื่อด้อยลง และหนี้ครัวเรือนสูง หวั่นกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจและระบบการเงิน

• สภาหอการค้าไทยประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัวราว 2.8-3.2% หนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐ-เอกชน การส่งออก และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาแตะ 40 ล้านคน

• ปธน. ไบเดนประกาศคัดค้านต่อข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ US Steel โดยบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ของญี่ปุ่น Nippon Steel Corp มูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากมองว่าจะกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ

• PMI ภาคการผลิตโดย ISM ธ.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.3 สูงสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2567 และสูงกว่าคาด แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตและหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9

• องค์กรสถิติการค้าเซมิฯ โลกคาดปี 2568 ตลาดชิปทั่วโลกจะเติบโต 11.2% สู่ระดับ 6.972 แสนล้านดอลลาร์ หนุนจากความต้องการเซมิฯ สำหรับใช้ในศูนย์ข้อมูลและสมาร์ตโฟนที่ติดตั้งเทคโนโลยี AI

• กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับการจำกัดการส่งออกชิ้นส่วนแบตเตอร์รี่และเทคโนโลยีแปรรูปแร่แกลเลียมและลิเทียมเพื่อตอบโต้การควบคุมเทคโนโลยีโดยสหรัฐฯ

• Microsoft วางแผนใช้งบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีงบฯ 2568 เพื่อสร้าง Data Center สำหรับ AI โดยงบฯ กว่าครึ่งหนึ่งของโครงการนี้คาดว่าจะใช้จ่ายจนถึง มิ.ย. 2568 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในสหรัฐฯ

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1370-1410 จุด แม้คาดตัวเลขเศรษฐกิจจีนจะมีสัญญาณฟื้นตัวและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง แต่คาดนักลงทุนยังรอติดตามนโยบายการค้าของว่าที่ปธน. สหรัฐฯ ซึ่งจะเข้าพิธีสาบาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. นี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศค่อนข้างผสม จากความคาดหวังเชิงบวกที่มีต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาและจะมีผลบังคับในช่วงต้นปีนี้ แต่อาจถูกบั่นทอนจากการขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่และยังมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศเป็นความเสี่ยงที่กดดันให้ Fund Flow ยังมีโอกาสไหลกลับเข้ามาตลาดหุ้นไทยค่อนข้างจำกัด อีกทั้งยังมีแรงขายกดดันจากเม็ดเงินโครงการกองทุน LTF ที่ครบกำหนด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ โดยรอติดตามเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศและนโยบายการค้าของว่าที่ปธน. สหรัฐฯ และมีแรงขายกดดันจากเม็ดเงินโครงการกองทุน LTF ที่ครบกำหนด กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้

1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค โดยนำค่าซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt) ในช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 และแจกเงินหมื่นเฟส 2 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO CPALL TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG OSP) และกลุ่มท่องเที่ยว (MINT)

2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดจะมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนภายใต้ภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังรอคอยปัจจัยชี้นำใหม่ๆ และยังมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง อีกทั้งปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ แนะนำ AP KTB BBL PTT

3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก GULF OSP  AMATA AU TIDLOR BCP 

4. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แนะนำ IVL PTTGC

DAILY TOP PICKS

BBL: หุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร โดยมองมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจาก 1) Valuation ถูกที่สุด 2) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุด และ 3) สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุด โดยคาดสินเชื่อจะฟื้นตัวเติบโตได้ดีใน 4Q67 ซึ่งล่าสุด พ.ย. สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 1.3%MoM แรงหนุนจากสินเชื่อกิจการต่างประเทศและสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่

BTG: หุ้นเด่นของกลุ่มอาหาร เนื่องจากคาด 4Q67 กำไรปกติจะเติบโตเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ดีสุดในกลุ่ม แรงหนุนจากมาร์จิ้นที่กว้างขึ้น และกำไรปกติปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มอาหารจากธุรกิจสุกรในประเทศไทยที่ฟื้นตัวดีขึ้น (จากฐานต่ำใน 1H67) และการซื้อกิจการผู้ประกอบธุรกิจไข่ในสิงคโปร์เสร็จภายใน 1Q68
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 ม.ค. 2568 เวลา : 11:29:31
21-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 21, 2025, 1:07 am