แบงก์-นอนแบงก์
อบาคัส ดิจิทัล ชู AI แก้หนี้นอกระบบ เผย ปล่อยสินเชื่อแล้วกว่า 2.4 หมื่นล้าน ตั้งเป้าปี68 กำไรโต 40% พร้อมจับมือพันธมิตรขยายฐานตลาด


อบาคัส ดิจิทัล (ABACUS digital) ชูเทคโนโลยี AI แก้ปัญหาหนี้ไทยอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างโอกาสที่เท่าเทียมแก่คนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านสินเชื่อออนไลน์ “มันนี่ทันเดอร์ (MoneyThunder)” ที่ตอบโจทย์ด้วยการพัฒนา AI ด้วยฝีมือคนไทย โดดเด่นจนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อออนไลน์ด้วยการปล่อยสินเชื่อแล้วกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท จัดการหนี้เสียต่ำกว่า 3% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในตลาด ตั้งเป้าปี 68 สินเชื่อโต 10% กำไรเพิ่ม 40% และส่งต่อบริการเทคโนโลยี AI ในรูปแบบ B2B กับกลุ่มธุรกิจคาดโตเพิ่ม 20% พร้อมเดินหน้าแผนซีรีส์ C จับมือพันธมิตรต่างประเทศอย่างน้อย 1 รายในปีนี้

 
ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ในการใช้เทคโนโลยีทางการเงินเพื่อส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อที่เท่าเทียมสำหรับคนไทยทุกกลุ่ม ที่ Giving Everyone a Real Chance at a Better Life สามารถสร้างโอกาสเพื่อชีวิตที่ดีกว่าได้ ผ่านการเข้าถึงบริการทางการเงินที่สะดวกและปลอดภัย เพื่อลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีครัวเรือนไทยถึง 42% ที่ยังประสบปัญหานี้ โดยมูลค่ารวมสูงถึง  8 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักมาจากข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างกลุ่มแรงงาน ฟรีแลนซ์ และผู้ประกอบการรายย่อยที่มีอยู่กว่า 21.3 ล้านคน  อบาคัส ดิจิทัล จึงมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างเป็นธรรม พร้อมผลักดันเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและสร้างความมั่นคงในระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
 
อบาคัส ดิจิทัล ถือกำเนิดขึ้นมา 7 ปีที่แล้วด้วยความตั้งใจที่จะศึกษาทำความเข้าใจ Data Technology และ AI เพื่อนำมาสร้างโอกาสทางการเงินให้กับบุคคลกลุ่มเปราะบาง ซึ่ง ณ วันนั้น บริษัทได้รับการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ในรูปแบบของการ Funding เข้ามา จนกลายเป็นยานหนึ่งลำของทาง SCBX จวบจนวันนี้ อบาคัส ดิจิทัล ได้เล็งเห็นถึงปัญหาของคนที่มีไอเดีย และมีศักยภาพในการประกอบอาชีพ แต่ขาดต้นทุนตั้งต้นในการสร้างธุรกิจหรือเครดิตทางการเงิน ที่อาจทำให้ต้องไปพึ่งธุรกรรมการเงินนอกระบบแทน ทำให้ทางบริษัทมีความตั้งใจที่จะช่วยให้คนไทยทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างโปร่งใส ปลอดภัย และรวดเร็ว โดยนำเทคโนโลยี AI และข้อมูลทางเลือกมาใช้วิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างแม่นยำเพื่อเพิ่มโอกาสให้คนตัวเล็กที่มีเครดิตน้อยสามารถเริ่มต้นมีสินเชื่อในระบบได้ รวมไปถึงการใช้ AI ในการช่วยลดความเสี่ยงในการถูกฉ้อโกง และลดต้นทุนในการใช้สินเชื่ออีก นวัตกรรมนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ แต่ยังส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
 
 
“คนในกลุ่มเปราะบาง สิ่งแรกที่ต้องแก้ปัญหาให้พวกเขาคือ 1.ลดระยะเวลาในการทำธุรกรรมทางการเงินที่ปกติมีระยะเวลานานในการเข้าถึง 2. การทำให้ Data ของพวกเขาจากการใช้อินเตอร์เน็ตที่มีอยู่มหาศาลแปลงเข้ามาเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความเสี่ยงของการขอสินเชื่อได้ และ 3.สร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการ Approval ที่ต้องใช้ระยะเวลานาน ซึ่งในที่สุดอบาคัส ดิจิทัล ก็ได้พัฒนาสินเชื่อออนไลน์ “มันนี่ทันเดอร์” เป็น
แอปพลิเคชันสินเชื่อออนไลน์ ที่ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดสูงกว่า 20 ล้านครั้ง โดยมีจุดเด่นที่แตกต่าง คือ เทคโนโลยี AI ที่พัฒนาขึ้นเองจากความเข้าใจปัญหาทางการเงินของคนไทยอย่างแท้จริง ซึ่งสามารถใช้ในการประเมินความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ ลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการให้สินเชื่อ ทำให้คนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อที่สะดวกและโปร่งใส ด้วยการสมัครสินเชื่อที่สะดวกผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชม. ผู้กู้สามารถใช้ข้อมูลทางเลือกที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น บิลค่าน้ำค่าไฟ ยอดขายออนไลน์ ในการสมัครสินเชื่อ โดยมีการอนุมัติที่รวดเร็วไวสุดใน 2 นาที และมีดอกเบี้ยเป็นธรรม โดยปัจจุบันให้บริการคนไทยได้อย่างทั่วถึง มีจำนวนผู้ใช้เติบโตแบบก้าวกระโดดสูงกว่า 4 ล้านคน และปล่อยสินเชื่อแล้วกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท” ดร.สุทธาภา กล่าว
 
โดยมันนี่ทันเดอร์ ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วยข้อเสนอสำหรับโปรแกรมการชำระคืนที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และอนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนจากสินเชื่อหมุนเวียนเป็นสินเชื่อแบบกำหนดระยะเวลา หรือลดจำนวนเงินผ่อนชำระลงชั่วคราว โดยมีการอนุมัติวงเงินสินเชื่อ 2 licenses ด้วยกัน ได้แก่ 1. Nano Finance สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ มอบวงเงินสูงสุด 100,000 บาท 2. P-loan สินเชื่อแก่บุคคลธรรมดา วงเงินสูงสุดคิดเป็น 5 เท่าของเงินเดือนผู้กู้ ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยสร้างวินัยการชำระอย่าง ฟีเจอร์คะแนนการชำระเงิน (Repayment Score) ที่จะช่วยให้ผู้กู้รักษาเครดิตได้ในระยะยาว และยังมีฟีเจอร์ “รู้ทันหนี้” เพื่อช่วยเพิ่มพูนความรู้ในการจัดการหนี้ ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาหนี้ของคนไทย และลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินในสังคม
 
นอกจากนี้ มันนี่ทันเดอร์ยังถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยี AI ของทางบริษัทเองที่เรียกว่า ABACUS Core Technology (ACT) ที่ประกอบไปด้วย Credit Modeling, Martech รวมถึง Chatbot เพื่อช่วยเลือกแผนการชำระเงินและข้อเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล พร้อมต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ด้วยระบบประเมินความเสี่ยงที่แม่นยำจากข้อมูลทางเลือกและแบบจำลอง AI ซึ่งสามารถขยายตลาดได้อย่างกว้างขวาง โดยด้านความปลอดภัย มันนี่ทันเดอร์ได้รับการรับรอง ISO 27001 มาตรฐานการจัดการความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ พร้อมปกป้องข้อมูลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) อย่างเคร่งครัด เพื่อปกป้องข้อมูลและสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าอย่างยั่งยืน



“ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้มันนี่ทันเดอร์ได้สร้างความสำเร็จในการเปิดโอกาสทางการเงินให้คนไทยอย่างแท้จริง โดยพบว่าผู้ใช้สินเชื่อกว่า 1 ใน 3 เคยพึ่งพาสินเชื่อนอกระบบ และกว่า 30% เคยถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร ทั้งนี้ มากกว่า 50% ของผู้ใช้งานมีรายได้ที่ดีขึ้นหลังได้รับสินเชื่อจากมันนี่ทันเดอร์ ทำให้มีลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำอีกครั้งถึง 92% และปัจจุบันบริษัทมีNPL ต่ำกว่า 3% ขณะที่ตลาดมี NPL อยู่ที่ 5-7% นอกจากนี้เรายังได้ส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยมีสัดส่วนถึง 63% ของลูกค้าทั้งหมดที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเทียบกับตลาดอยู่ที่เพียง 40% ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงและปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจพร้อมเปิดโอกาสการเข้าถึงทางการเงินให้กับคนไทย” ดร.สุทธาภา กล่าว

ต่อยอด AI ชู ABACUS techsuite เสริมแกร่งให้กับธุรกิจในทุกมิติ
 
 
ดร.ศรัณย์ อาฮูยา Chief Data Scientist บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า จากการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของบริษัท ที่ทำให้เกิดเทคโนโลยี ABACUS techsuite หรือเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ข้อมูลและการพัฒนานวัตกรรมด้านการเงินขึ้นมา จึงเกิดการต่อยอดโมเดลธุรกิจใหม่ ที่จะขยายบริการ ABACUS Techsuite ไปสู่ภาคธุรกิจที่มองหาเทคโนโลยีในการปลดล็อกศักยภาพและเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัล เช่นการให้บริการ ABACUS Check ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสเตทเมนต์ธนาคาร ที่ให้ผลลัพธ์เชิงลึกภายใน 1 นาที พร้อมฟังก์ชันตรวจจับการปลอมแปลงเอกสารที่แม่นยำ และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจข้อมูลทางการเงินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมนี้ยังช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจหลากหลายประเภท อาทิ สถาบันการเงิน ธุรกิจเช่าซื้อ และอสังหาริมทรัพย์ ตอกย้ำบทบาทของอบาคัสในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการเงินที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการได้อย่างแท้จริง
 
“โดยในส่วนของ ABACUS Check จะเป็นในลักษณะของ B2B Business ที่ส่งมอบให้กับกลุ่มธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องใช้ เพื่อนำเทคโนโลยีของ อบาคัส ดิจิทัล ไปวิเคราะห์ข้อมูลในกลุ่มลูกค้าของตนเอง เช่นระดับของรายได้ เพื่อสร้างความปลอดภัยในธุรกิจ ซึ่งในตอนนี้ได้ Launch เทคโนโลยี AI ดังกล่าวให้กับหลาย ๆ ธุรกิจไปบ้างแล้ว” ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติม

ส่วนด้านของผลการดำเนินกิจการ ดร.สุทธาภา กล่าวว่า อบาคัส ดิจิทัล เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยผลกำไรที่มั่นคง พร้อมมุ่งมั่นสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ ผ่านการให้บริการสินเชื่อที่ปลอดภัยและยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ในการสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับสังคมไทย สะท้อนให้เห็นจากความสำเร็จของแพลตฟอร์มมันนี่ทันเดอร์ โดยพบว่า 50% ของลูกค้าแจ้งว่ามีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น หลังจากได้รับสินเชื่อที่โปร่งใสและปลอดภัยผ่านแพลตฟอร์มของเรา
 
 
เป้าของปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อเพิ่มขึ้น 10% อ้างอิงจาก Outstanding ปัจจุบันของบริษัทที่มีมูลค่าสินเชื่ออยู่ที่ 8,000 ล้าน และตั้งเป้ากำไรถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีแผนขยายบริการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน มันนี่ทันเดอร์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของคนไทยให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ภายใต้ 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าปัจจุบัน พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ และการนำเสนอผลิตภัณฑ์เสริม ที่เพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตร ส่วนบริการ ABACUS Techsuite ที่เพิ่งเปิด มีความคาดหวังว่าจะมีรายได้ในระดับ Significant อยู่ที่ 20%

“สำหรับก้าวต่อไปของบริษัท ที่ตอนนี้ได้เดินทางมาจนถึงเฟส Series C ที่สามารถสร้างผลกำไรได้เรียบร้อยแล้ว การ Hedge Fund หรือการระดมทุนอาจไม่ใช่เรื่องที่มีความเร่งด่วนมากนัก แต่แผนการเดินหน้าที่สำคัญในซีรีส์นี้คือการเสาะหา Partner ที่จะนำพา อบาคัส ดิจิทัล ไปสู่ตลาดที่กว้างมากขึ้น โดยนักลงทุนของบริษัทที่เข้ามาระดมทุนบริษัทในซีรีส์ที่ผ่านมา Venture Capital ในหมวด Global Player ที่ลงทุนในบริษัทต่างประเทศอยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถใช้ Network ตรงนี้ในการวาง Partnership ต่อไป โดยคาดว่าจะขยายพันมิตรต่างประเทศเน้นไปที่กลุ่มของทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มอย่างน้อย 1 รายในปีนี้ และในปัจจุบันก็มีลูกค้าที่ใช้เทคโนโลยี ABACUS techsuite ในประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการศึกษาไปในตัวด้วยว่าเทคโนโลยีต่อไปที่จะพัฒนาขึ้นมาจะตอบโจทย์กับลูกค้าในกลุ่มอื่น เช่นในกลุ่มต่างประเทศที่มีโครงสร้างของข้อมูลที่แตกต่างกันหรือไม่ ส่วนแผนการระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่จะสามารถยกระดับมาตรฐานของบริษัท ซึ่งได้วางกรอบระยะเวลาอยู่ที่ช่วง 3-5 ปีข้างหน้า” ดร.สุทธาภา กล่าวทิ้งท้าย
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ม.ค. 2568 เวลา : 18:18:30
22-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 22, 2025, 6:16 am