เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "เงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำคาด เป็นปัจจัยหนุน"



แม้ CPI สหรัฐฯ ออกมาตามคาด อย่างไรก็ตาม Core CPI ออกมาต่ำกว่า ช่วยให้ดอลลาร์ และ Bond Yield สหรัฐฯ ชะลอตัว มองเป็นปัจจัยหนุน SET ได้ โดยมีแนวต้านที่คาดรอทดสอบอยู่ที่ 1360-1365 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1340-1345 จุด ทั้งนี้ภาพรวมให้ติดตาม 1380 จุด หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะสร้างสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม

ประเด็นสำคัญ

• EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 412.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 2565 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะลดลงเพียง 992,000 บาร์เรล

• สหรัฐฯ เผยดัชนี Core CPI ธ.ค. 2567 ปรับตัวขึ้น 3.2%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลง และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

• กลุ่มบจ. การเงินสหรัฐฯ เช่น Goldman Sachs, JP Morgan, BlackRock, Well Fargo และ Citi Group เผยผลประกอบการ 4Q67 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้

• รองประธาน ECB ส่งสัญญาณว่า ECB จะเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยต่อไปท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา หลังข้อมูลล่าสุดชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อน

• ก.ล.ต. เผยกำลังพิจารณาเรื่องบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลการจำนำหุ้น เพื่อผู้ลงทุนจะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจลงทุนและอาจมีมาตรการเสริมเพิ่มเติม โดยคาดจะมีความชัดเจนออกมาภายใน 1Q68 จากเดิมที่คาดจะชัดเจนเดือน ธ.ค. 2567 

• Bloomberg รายงาน ก.ล.ต. กำลังพิจารณาอนุญาตให้เข้าจดทะเบียน Bitcoin ETF ในตลาดหุ้นไทยเป็นครั้งแรก ให้นักลงทุนรายย่อยและสถาบันเข้าลงทุนได้ 

• ก.ล.ต. เผยว่าไม่มีแนวคิดยกเลิก Short Sell เนื่องจากยังมีความจำเป็นต่อตลาดหุ้นไทย แต่อาจต้องพิจารณาเสริมมาตรการกำกับดูแลตามความเหมาะสม และจะประเมินประสิทธิผลและทบทวนการใช้เกณฑ์ Uptick ซึ่งอาจกระทบต่อมูลค่าการซื้อขายของตลาด

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวโดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1400 จุด แม้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแย่กว่าภูมิภาคจากความกังวลเสถียรภาพการเมืองและ ESG ของบจ. รวมทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการส่งออกรถยนต์ที่คาดอ่อนแอลง แต่ยังมีความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดค่าครองชีพในประเทศเพิ่มเติม รวมถึงการเริ่มต้นของมาตรการ Easy E-Receipt ตั้งแต่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 จะช่วยกระตุ้นงบ 1Q68 ด้านปัจจัยต่างประเทศ ตลาดคาด GDP 4Q67 ของจีนจะเพิ่มขึ้น 5%YoY และเงินเฟ้อ ธ.ค. 2567 ของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น 2.9%YoY ทั้งนี้มองแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและการลดดอกเบี้ยของเฟดจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม อาจจะไม่กดดันลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET  มีโอกาสฟื้น แต่ Upside จำกัด โดยรอการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ และนโยบายการค้าของสหรัฐฯ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้

1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการ Easy E-Receipt ช่วงวันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 และเงินหมื่นเฟส 2 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO CPALL TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG OSP) และกลุ่มท่องเที่ยว (MINT)

2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ต แนะนำ AP KTB BBL PTT

3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก OSP  AMATA AU TIDLOR BCP 

4. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรใน 1) หุ้นที่ได้ Sentiment บวกหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น แผนดึงเม็ดเงินลงทุน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน Entertainment Complex และลดค่าครองชีพ-เพิ่มกำลังซื้อ แนะนำ กลุ่มนิคมฯ (WHA AMATA) กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CRC) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT AWC) และ 2) หุ้นที่ราคา Laggard (เทรด PER 2568F ต่ำกว่า -1SD) แต่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำ BTG BEM BDMS

DAILY TOP PICKS

DELTA: 4Q67 คาดจะเป็นบริษัทเดียวที่รายงานกำไรปกติเติบโต YoY ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราดูแลอยู่ เนื่องจากได้ประโยชน์จากวัฏจักรการเติบโตของ AI และอัตรากำไรขั้นต้นยังคงแข็งแกร่งหลังมีรายได้จากผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูงที่พัฒนาโดย DELTA Thailand ซึ่งไม่ต้องจ่ายค่า Royalty Fee ให้กับ DELTA Taiwan ในสัดส่วนสูง ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อเก็งกำไรวันนี้ไม่เกิน 145 บาท

CPALL: 4Q67 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากเข้าสู่ High Season และยอดขายสาขาเดิมยังเติบโตแข็งแกร่ง อีกทั้งมาร์จิ้นยังกว้างขึ้นต่อเนื่องจากกมียอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลและการปรับลดดอกเบี้ยจะเพิ่ม Upside ให้กับประมาณการ
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 ม.ค. 2568 เวลา : 11:23:00
20-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2025, 11:52 am