
SET แม้ผ่อนคลายแรงกดดดันลง หลังดอลลาร์ และ Bond Yield สหรัฐฯ ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม คาดดัชนียังผันผวน โดยมีประเด็นสำคัญในวันจันทร์หน้า ซึ่งทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง
ปธน. และตลาดติดตามนโบายด้านการค้า ทำให้คาดกรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1360-1365 จุด ส่วนกรอบล่างมีแนวรับอยู่ที่ 1340-1345 จุด หากต่ำกว่าเป็นลบต่อ
ประเด็นสำคัญ
• กกพ. เสนอ กพช. ให้ปรับเงื่อนไขการอุดหนุนค่าไฟฟ้ารูปแบบ Adder และ FiT ของ SPP และ VSPP เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและลดค่าไฟฟ้าลด 17 สต./หน่วย เหลือ 3.98 บาท/หน่วย ทั้งนี้ปัจจุบันมี SPP และ VSPP 553 ราย มีกำลังการผลิตรวม 3,940MW
• ตลท. รับมาตรการซื้อขายหุ้นต้องทบทวนยกชุดหลังประกาศใช้เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะตลาดหุ้นไทย ส่วน Uptick Rule จะยกเลิกไปเลยต้องดูว่ามีประโยชน์ตลาดหุ้นปกติหรือไม่ อาจจะปรับไปใช้เฉพาะหุ้นรายตัวที่ราคาหุ้นผันผวนสวนทางกับพื้นฐานซื้อขาย
• รมช. คลังเผยรัฐบาลจะแจกเงินหมื่นเฟสสองให้แก่ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติอายุ 60 ขึ้นไป ณ วันที่ 15 ก.ย. 67 โดยจะโอนเงินในวันที่ 27 ม.ค. และเช็กสิทธิ 22 ม.ค. ผ่านแอปฯ ทางรัฐ
• วันนี้ติดตามการเปิดตัวโครงการบ้านเพื่อคนไทย เปิดตัวบ้านและห้องตัวอย่าง และให้เริ่มลงทะเบียนผ่านเว็ปไซด์ เวลา 14:00 น. ประกอบด้วยพื้นที่บางซื่อ กม.11, เชียงราก, สถานีธนบุรี และสถานีเชียงใหม่
• Agoda เผยกรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนสำหรับชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง อัตราการค้นหาที่พักพุ่งขึ้นสูงถึง 80%
• Microsoft แถลงให้คำมั่นจะลงทุนรวม 8 หมื่นล้านดอลลาร์ในการสร้าง Data Center AI ทั่วโลก โดยจะลงทุนในสหรัฐฯ กว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ หลัง CEO เข้าหารือเรื่อง AI และความมั่นคงทางไซเบอร์ร่วมกับว่าที่ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์
• TSMC เผยผลประกอบการ 4Q67 สูงกว่าที่ตลาดคาด หนุนจากความต้องการชิป AI ที่ยังคงแข็งแกร่งและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัว โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1400 จุด ทั้งนี้แม้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลงแย่กว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค จากกังวลเรื่องเสถียรภาพการเมืองและ ESG ของบจ. รวมทั้งตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคและตัวเลขส่งออกรถยนต์ของไทยคาดมีแนวโน้มอ่อนแอลง แต่ยังมีความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดค่าครองชีพในประเทศเพิ่มเติมจากรัฐบาล รวมถึงการเริ่มต้นมีผลบังคับใช้ของมาตรการ Easy E-Receipt ตั้งแต่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 จะช่วยกระตุ้นงบ 1Q68 ให้เติบโตได้ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนั้นมองว่าแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและการลดดอกเบี้ยของเฟดจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม จึงอาจจะไม่กดดันบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้น แต่ Upside จำกัด โดยรอการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ และนโยบายการค้าของสหรัฐฯ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการ Easy E-Receipt ช่วงวันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 และเงินหมื่นเฟส 2 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO CPALL TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG OSP) และกลุ่มท่องเที่ยว (MINT)
2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ต แนะนำ AP KTB BBL PTT
3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก OSP AMATA AU TIDLOR BCP
4. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรใน 1) หุ้นที่ได้ Sentiment บวกหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น แผนดึงเม็ดเงินลงทุน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน Entertainment Complex และลดค่าครองชีพ-เพิ่มกำลังซื้อ แนะนำ กลุ่มนิคมฯ (WHA AMATA) กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CRC) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT AWC) และ 2) หุ้นที่ราคา Laggard (เทรด PER 2568F ต่ำกว่า -1SD) แต่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำ BTG BEM BDMS
DAILY TOP PICKS
CPALL: 4Q67 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากเข้าสู่ High Season และยอดขายสาขาเดิมยังเติบโตแข็งแกร่ง อีกทั้งมาร์จิ้นยังกว้างขึ้นต่อเนื่องจากกมียอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลและการปรับลดดอกเบี้ยจะเพิ่ม Upside ให้กับประมาณการ
ERW: ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงแรง 16%YTD หลังกังวลนักท่องเที่ยวจีนลดลงจากสถานการณ์นักแสดงจีนหายตัวไปซึ่งมองสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว จนทำให้ปัจจุบันเทรด PER 68F ที่ 20 เท่า หรือราว -1 SD. ขณะที่ 4Q67 คาดกำไรปกติจะทรงตัว YoY (ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น) แต่จะยังเพิ่มขึ้นได้ QoQ (ปัจจัยฤดูกาล และการปรับปรุงห้องพักที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ทาวเวอร์ 1 เสร็จสิ้น)
ข่าวเด่น