
ภาษีคาร์บอนจะถูกจัดเก็บจากสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในอัตรา 200 บาทต่อตันคาร์บอนได ออกไซด์เทียบเท่า โดยรวมอยู่ในอัตราภาษีสรรพสามิตปัจจุบันเพื่อไม่ให้กระทบราคาขายปลีก โดยจะทำให้ผู้ใช้น้ำมันมีส่วนช่วยจ่ายภาษีคาร์บอนระหว่าง 0.069 – 0.623 บาท/ลิตร แตกต่างตามผลิตภัณฑ์น้ำมันซึ่งมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แตกต่างกัน
อย่างไรก็ดี ภาษีคาร์บอนดังกล่าวจะไม่สร้างภาระให้กับผู้ใช้น้ำมัน และไม่เป็นต้นทุนเพิ่มแก่ภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากจะเป็นส่วนหนึ่งของภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่มีการจัดเก็บเดิมอยู่แล้ว แต่แบ่งจัดสรรส่วนหนึ่งเป็นภาษีคาร์บอน เพื่อสร้างการตระหนัก (Awareness) และสร้างกลไกราคาของการปล่อยคาร์บอน (Carbon Pricing) ให้แก่สาธารณะชน
ทั้งนี้ ราคาคาร์บอนในอัตรา 200 บาท/tCO2eq ดังกล่าว ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่แพง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น เช่น ฟินแลนด์ จัดเก็บอัตรา 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อลิตร (ประมาณ 3,600 บาท) สิงคโปร์ 18 ดอลลาร์สหรัฐต่อลิตร (ประมาณ 648 บาท)
โดยภาษีคาร์บอนจะถูกจัดเก็บในมูลค่าที่ต่างกันออกไปตามค่าสัมประสิทธิ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Factor) ของสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน โดยกำหนดอัตราเบื้องต้นที่ 200 บาท ต่อปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา 1 ตัน (tCO2eq)
ที่มา: สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
อย่างไรก็ดี การประกาศใช้อัตราภาษีคาร์บอนครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นก่อน ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2572 ซึ่งระหว่างนั้นอาจมีการปรับอัตรา และกำหนดสินค้าที่จะจัดเก็บภาษีคาร์บอนเพิ่มเติมได้อีก
ข่าวเด่น