
(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ หรือ EIA เผยตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น 8.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับที่ 423.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อยู่ที่ 2 ล้านบาร์เรล สะท้อนถึงความต้องการใช้น้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่ลดลง หลังจากโรงกลั่นหลายแห่ง เร่งทำการซ่อมบำรุง เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงในช่วงนี้
(-) นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง
(-/+) หลังวันอังคารที่ผ่านมา (4 ก.พ.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยมีจุดประสงค์ที่จะยับยั้งไม่ให้เตหะรานครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 ก.พ.) ประธานาธิบดีอิหร่าน นายมาซูด เปเซซเคียน ออกมาเรียกร้องต่อกลุ่มโอเปก ให้สามัคคีกันเพื่อที่ต่อต้านการคว่ำบาตรจากสหรัฐไม่ให้กดดันคนใดคนหนึ่งได้ นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันอิหร่านได้เผยว่า การคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อผู้ผลิตน้ำมันดิบจะทำให้ตลาดพลังงานมีความไม่มั่นคง รวมถึงเสียหายต่อผู้บริโภคทั่วโลก
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังมีแรงหนุนจากปัญหาทางเทคนิคของโรงกลั่นหนึ่งในมาเลเซีย ในหน่วย RFCC ที่มีกำลังการผลิตที่ 70,000 บาร์เรลต่อวัน จะต้องปิดซ่อมบำรุงนานถึง 2 เดือน ส่งผลให้อุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังมีแรงหนุนจากโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ทำการปิดซ่อมบำรุงแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้า และปริมาณสต็อกน้ำมันดีเซลของท่าเรือฟูไจราห์ ลดลงร้อยละ 33 แตะระดับที่ 1.84 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคปรับตัวลดลง
ข่าวเด่น