เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "หวังลดดอกเบี้ย แสงปลายอุโมงค์"


SET ดำดิ่งลงมาใกล้ 1200 จุด อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางตลาดที่ขาดปัจจัยหนุน และกังวลสงครามการค้า ทำให้นักลงทุนในตลาดต่างให้ความหวังในวันนี้ สำหรับการประชุมกนง. แม้มีการคงดอกเบี้ย แต่หากมีสัญญาณต่อโอกาสลดดอกเบี้ยในภายหน้า คาดจะหนุนการฟื้นตัวได้ โดยมีแนวต้านที่ 1215-1220 จุด ส่วนโซนแนวรับอยู่ที่ 1190-1200 จุด

ประเด็นสำคัญ

• ครม. ทำหนังสือถึง ธปท. แสดงความคิดเห็นต่อนโยบายการเงิน หนุนลดดอกเบี้ยนโยบายที่ ธปท. ต้องคำนึงถึงกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% วันนี้ติดตามการประชุม กนง. เกี่ยวกับทิศทางนโยบายดอกเบี้ย

• นายกฯ สั่งการในที่ประชุม ครม. ทุกหน่วยงานเร่งหามาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตั้งเป้าตั้งแต่ 1Q68 เป็นต้นไปขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3.2% และสั่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และการเยียวยาเรือประมง IUU

• กระทรวงพาณิชย์เผยมูลค่าส่งออกไทย ม.ค. 2568 ขยายตัว 13.6%YoY สูงกว่าตลาดคาดและขยายตัว 7 เดือนต่อเนื่อง หนุนจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเติบโตต่อเนื่องและภาคการผลิตที่ขยายตัว ส่วนการนำเข้าขยายตัว 7.9%YoY ทำให้ขาดดุล 1.8 พันล้านดอลลาร์

• Bloomberg รายงานว่าอินโดนีเซียและ Apple บรรลุเงื่อนไขเพื่อยกเลิกคำสั่งห้ามจำหน่าย iPhone16 ที่มีมากว่า 5 เดือน Apple จะต้องลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์และฝึกอบรบคนท้องถิ่นด้าน R&D

• ตลท. เผยแผนปรับเกณฑ์ New Listing ทบทวนเกณฑ์ Free Float สำหรับการจดทะเบียนใน SET และ mai เช่น ปรับปรุงสัดส่วน Free Float จาก 20% เหลือ 17% เพื่อดึงดูดบริษัทขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันกับต่างประเทศ เปิดเฮียริ่งถึง 18 มี.ค. นี้

• สหรัฐฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ก.พ. ปรับลงสู่ระดับ 98.3 ต่ำสุดนับตั้งแต่ มิ.ย. 2567 และต่ำกว่าตลาดคาด สะท้อนว่าความกังวลที่มากขึ้นต่อผลกระทบจากนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

• Brent ปรับลง 3% ในวานนี้ ท่ามกลางความกังวลต่อสงครามการค้าที่จะส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันของโลก ขณะที่ปธน. สหรัฐฯ ยืนยันจะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวแต่ Upside จำกัด โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1300 จุด ประเมินว่าปัจจัยมหภาคจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยเป็นผลจากดัชนี PCE มีแนวโน้มชะลอตัวลงเหลือ 2.5% ซึ่งจะไม่กดดันให้เฟดเปลี่ยนท่าทีต่อนโยบายการเงิน และ PMI ภาคการผลิตและบริการของจีนมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่ ธปท. ยังคงมุมมองที่จะคงดอกเบี้ยที่ 2.25% ซึ่งตลาดรับรู้และสะท้อนในราคาแล้วระดับหนึ่ง นอกจากนั้นแนวโน้มผลประกอบการ 1Q68 น่าจะบ่งชี้ว่ากำไรของตลาดหุ้นไทยได้ผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้วในช่วง 2H67 ทำให้เรามองว่า กระแสเงินจากต่างชาติมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น รวมไปถึงมาตรการของ ตลท. ต่อการสร้างความเชื่อมั่นน่าจะช่วยให้ตลาดคลายความกังวลในระดับนึง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มอง SET มีโอกาสฟื้นตัว แต่ Upside จำกัด มีแนวต้านสำคัญที่ 1300 จุด แนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play ที่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนกำไร 4Q67-1Q68 ที่คาดจะเติบโตดี และมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC 

2. หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน คัดเลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายของกองทุนและมี Downside Risk จำกัด เนื่องจากมีจุดแข็ง ดังนี้ 1) ปี 2568 คาดกำไรมั่นคงและเติบโตได้ YoY 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมองมีโอกาสซื้อหุ้นคืน (PBV < 1) 3) Valuation ไม่แพง (PER และ PBV 2568F ต่ำกว่า -1SD) และ 4) ศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ (คาด Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อย 5%) พบมี 5 หุ้น BCP AP PTT TU SPALI

3. หุ้น Dividend Play สำหรับนักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุน แนะนำ AP KTB BBL PTT

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำเก็งกำไร 1) หุ้นที่คาดสัปดาห์หน้าจะประกาศงบ 4Q67 กำไรเติบโต YoY และ QoQ แนะนำ CPALL HMPRO BTG ERW AU KLINIQ และ 2) หุ้นคาดได้อานิสงส์เงินไหลเข้าจาก MSCI Rebalance มีผลราคาปิดวันที่ 28 ก.พ. 68 แนะนำ หุ้นที่จะเข้า MSCI Global Small Cap อย่าง GPSC SCGP และระมัดระวังหุ้น อย่าง PTTGC TOP ที่ออกจาก MSCI Global Standard

DAILY TOP PICKS

CPALL: มองเป็นหุ้น Defensive ซึ่งกำไรยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ 4Q67 รายงานกำไรดีกว่าคาดเล็กน้อย โดยเติบโต 28%QoQ ตามผลฤดูกาล และเติบโต 31%YoY จากยอดขายสาขาเดิมยังเติบโตแข็งแกร่ง อีกทั้งมาร์จิ้นยังกว้างขึ้นต่อเนื่องจากกมียอดขายสินค้ามาร์ จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้น ศก. เพิ่มเติมของรัฐบาลและการปรับลดดอกเบี้ยจะเพิ่ม Upside ให้กับประมาณการ

GULF: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการปรับตัวลงของ Bond Yield ขณะที่ 1H68 คาดกำไรจะยังแข็งแกร่งจากการขยายกำลังการผลิต ส่วนการควบรวมกิจการกับ INTUCH จะยังคงเป็นไปตามกำหนดภายใน 2Q68 ซึ่งจะหนุนให้งบดุลของบริษัทปรับตัวดีขึ้นและช่วยสนับสนุนการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศที่กำลังจะมาถึง  
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ก.พ. 2568 เวลา : 11:16:43
19-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2025, 4:30 pm