.jpg)
กลุ่มพันธมิตรพรรค CDU/CSU ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนี (Bundestag) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 68 โดยนายฟรีดริช แมร์ซ หัวหน้าพรรค CDU มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศ
โดยผลการเลือกตั้งชี้ว่า กลุ่มพันธมิตรพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) และพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) มีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ที่ 28.5% (รูปที่ 1) หลังจากนี้ คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนในการจัดตั้งรัฐบาลผสม (Coalition) ซึ่งมีอยู่ 2 ตัวเลือก คือ CDU/CSU-SPD และ CDU/CSU-SPD-Greens
ประเด็นสำคัญที่พรรค CDU/CSU ต้องจัดการ ได้แก่
1. Debt Brake
- แมร์ซได้ส่งสัญญาณว่าพร้อมปฏิรูปกฎหมาย Debt Brake ซึ่งจำกัดการก่อหนี้สาธารณะ และการขาดดุลงบประมาณเชิงโครงสร้างที่ 0.35% ของ GDP เพื่อเพิ่มการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น และเพื่อเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม
- อย่างไรก็ดี พรรค CDU/CSU อาจจะไม่สามารถปฏิรูป Debt Brake เนื่องจากพรรค AfD และพรรค Die Linke มีจำนวนที่นั่งรวมกันในสภาถึง 216 ที่นั่ง (คิดเป็น 34.3%) ทำให้มีเสียงมากพอที่จะขัดขวางการแก้ไขกฎหมาย Debt Brake ซึ่งต้องใช้เสียงสนับสนุนสองในสามของสภาได้
2. Defense Spending
- พรรค CDU/CSU มีแผนปรับเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารให้เป็นอย่างน้อย 2% ของ GDP ในขณะที่ปี 2566 เยอรมนีมีการใช้จ่ายด้านการทหารเพียง 1.5% ของ GDP ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ NATO กำหนดไว้
3. Strategic Independence
- แมรซ์ส่งเสริม strategic independence ที่ต้องการลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะยิ่งเพิ่มความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับ EU โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังประกาศใช้มาตรการทางภาษีกับหลายประเทศคู่ค้า
ทั้งนี้ ตลาดการเงินได้ตอบสนอง ดังต่อไปนี้
1. ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นหลังการเลือกตั้ง (รูปที่ 2)
- โดยค่าเงินยูโรแตะระดับ 1.052 (26 ก.พ. ณ 8.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) หรือแข็งค่าขึ้นราว 0.1% จากระดับปิดวันก่อนหน้า เพราะเงินยูโรคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
2. ขณะที่ตลาดหุ้นเยอรมนีก็ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย (รูปที่ 3)
- เพราะได้รับแรงหนุนจากนโยบายการปรับลดภาษีของพรรค CDU/CSU โดยดัชนี DAX ปรับตัวสูงขึ้น 1% หลังจากวันเลือกตั้ง และเพิ่มขึ้น 5% ตั้งแต่ต้นเดือนก.พ. โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการทหาร เช่น Rheinmetall ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 25% ตั้งแต่ต้นเดือนก.พ. จากการคาดการณ์ที่จะมีการเพิ่มงบประมาณด้านการทหาร
ข่าวเด่น