
(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลงกว่า 1% หลังตลาดกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว และกดดันความต้องการใช้น้ำมันโลก ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายการเรียกเก็บภาษีของทรัมป์ในช่วงที่ผ่านมาได้สร้างความผันผวนให้กับราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ก่อนที่จะประกาศเลื่อนเก็บภาษีออกไปอีก 1 เดือน ขณะที่ฝั่งจีนนั้นมีการปรับเพิ่มภาษีนำเข้ามาอยู่ที่อัตรา 20% ตามลำดับ
(-) นอกจากนี้ ตลาดกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน ขณะที่เฟดได้มีการเปิดเผยแบบจำลองที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัวราว 2.4% ในไตรมาส 1/68 รวมถึงตลาดแรงงานสหรัฐฯ นั้นยังคงเปราะบาง โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าคาด ขณะที่อัตราการว่างงานปรับเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
(-) ตลาดจับตาเรื่องการหารือเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครนระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและยูเครนที่จัดขึ้นในประเทศซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากการเจรจาประสบความสำเร็จ หลายฝ่ายคาดว่าจะเป็นหนทางที่นำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย และส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดปรับเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในญี่ปุ่นกลับมาดำเนินการหลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงประจำปี นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากตัวเลขนำเข้าน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียที่คาดว่าจะปรับลดลงสู่ระดับ 12 ล้านบาร์เรลในเดือน มี.ค. อย่างไรก็ดี ตลาดคาดอุปสงค์น้ำมันเบนซินอินเดียยังคงแข็งแกร่งในเดือน มี.ค. จากเทศกาลรอมฎอน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของอินเดียเดือน ก.พ. ปรับลดลงกว่า 5.1% เทียบเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ตลาดคาดตัวเลขความต้องการใช้น้ำมันดีเซลสำหรับกิจกรรมทางการเกษตรและก่อสร้างในหลายภูมิภาคมีแนวโน้มฟื้นตัวมากขึ้นจากสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นหลังผ่านพ้นช่วงฤดูหนาว
ข่าวเด่น