
คาด SET ปรับขึ้นได้ต่อ ความตึงเครียดการขึ้นภาษีผ่อนคลายลง หลังแคนาดาระงับเก็บภาษีกระแสไฟฟ้า 25% จากสหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯ ยกเลิกการขึ้นภาษีแคนาดาเป็น 50% เช่นกัน ส่วนปัจจัยบวกจากการตั้งกองทุน Thai ESGX ยังน่าจะมี Momentum หนุนตลาดได้ต่อ ประเมินแนวรับที่ 1180 - 1170 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1200 - 1210 จุด
ประเด็นสำคัญ
• สหรัฐฯ พลิกกลับแผนเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดาเพิ่มสองเท่า หลังผู้ว่าการรัฐออนแทรีโอระงับการจัดเก็บภาษีส่งออกไฟฟ้า 25% ของรัฐออนแทรีโอไปสู่มลรัฐมิชิแกน มินนิโซตา และนิวยอร์ก
• ปธน. ทรัมป์จัดการประชุมร่วมกับผู้นำภาคธุรกิจสหรัฐฯ กว่า 100 คน หวังฟื้นความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังในช่วงที่ผ่านมามูลค่าตลาดทรุดลงและมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
• ครม. เห็นชอบ ThaiESGX (นโยบายลงทุนคล้าย LTF) ให้สิทธิลดหย่อนภาษีโอน LTF สูงสุด 5 แสนบาท ต้องโยกหน่วยลงทุนในครั้งเดียว คาดมีผู้ใช้สิทธิ์ราว 1.35 แสนลบ. และกลุ่มลงทุนใหม่สูงสุด 3 แสนบาท โดยเปิดซื้อช่วง พ.ค.-มิ.ย. 2568 คาดมีเม็ดเงินขายหน่วยลงทุน 3 หมื่นลบ.
• กกพ. เคาะ 3 แนวทางค่าไฟฟ้าสำหรับงวด พ.ค. - ส.ค. 2568 ระหว่าง 4.15-5.16 บาท/หน่วย โดยแนวทางขั้นต่ำที่สุดยังใกล้เคียงกับค่าไฟฟ้างวดปัจจุบัน ผิดจากที่ตลาดคาดไว้จะลดลงต่ำกว่า 4 บาท/หน่วย ติดตามการพิจารณาจาก ครม. คาดจะได้ข้อสรุปใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
• คลังเผยนายกฯ ได้เห็นชอบแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อผลักดัน GDP เติบโตเกินกว่า 3% ผ่านการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ 46 โครงการตลอดปี 2568 โดยในจำนวนโครงการที่จะผลักดันทั้งหมดนี้จะมีโครงการใหม่ที่รัฐบาลเตรียมผลักดันออกมาอีกอย่างน้อย 12 โครงการ
• วันนี้ติดตามการประชุมบอร์ดค่าจ้างเกี่ยวกับแนวทางการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศเป็น 400 บาท/วัน
• รมว. คลังเผยอยู่ระหว่างจัดทำ พ.ร.ก. ให้อำนาจ ก.ล.ต. เร่งรัดจัดการผู้ที่ไม่ทำตามระเบียบและทำให้นักลงทุนรายย่อยเสียหาย และยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ คาดเสนอ ครม. พิจารณาได้ใน 2 สัปดาห์
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีสัญญาณฟื้นตัวบ้าง โดยคาดว่าจะมีแรงหนุนจากปัจจัยภายนอก เช่น สหรัฐฯ อาจเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าบางรายการจากเม็กซิโกและแคนาดา ขณะที่ยังมีความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนหลังการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน นอกจากนี้เงินเฟ้อจีนและสหรัฐฯ คาดยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มซึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวและราคาพลังงานที่ลดลง และน่าจะทำให้เฟดยังไม่เปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายการเงิน ส่วนปัจจัยในประเทศยังติดตามเสถียรภาพทางการเมือง การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐ การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนใน เม.ย. และเงื่อนไขของการโอนย้ายเม็ดเงินกองทุน LTF เป็น ThaiESGX ซึ่งจะทำให้ตลาดมีแรงขายลดลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีสัญญาณฟื้นตัวได้บ้าง หนุนจากความคาดหวังจากปัจจัยภายนอกและรัฐบาลไทยมีแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1. หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน เลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายกองทุน โดย 1) กำไรปี 2568 คาดเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีความสามารถการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Int. Cov. Ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) ศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาด Div. Yield อย่างน้อย 2% และ 5) SETESG Rating ระดับ A-AAA แนะนำ CPALL BDMS MTC MINT BTG
2. หุ้นปันผลคุณภาพดี โดย 1) สถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปี และ SETESG Rating ระดับ A-AAA 2) คาดจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว ยังให้ Div. Yield เกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ผลประกอบการปี 2568 ยังแข็งแกร่งและยังมี Upside เกิน 15% แนะนำ AP KTB BBL SPALI KBANK
3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนกำไร 1Q68 ที่คาดจะเติบโต YoY และ QoQ และมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ แนะนำเก็งกำไรสำหรับหุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากงาน Opp. Day ซึ่งคาดจะมีโทนประชุมเป็นบวกในสัปดาห์นี้และเราดูแลอยู่อย่าง AU TIDLOR BTG PTG
DAILY TOP PICKS
PTT : มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกองทุน ThaiESG เนื่องจากมี SETESG Rating ระดับ AAA อีกทั้งยังมีจุดแข็ง ดังนี้ 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และ 3) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 สูงราว 7%
GULF: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากค่าไฟงวด พ.ค. - ส.ค. 2568 ไม่ได้ลดลง และน่าสนใจในฐานะมี SETESG Rating ระดับ AAA 1H68 คาดกำไรยังแข็งแกร่งจากขยายกำลังผลิต การควบรวมกิจการกับ INTUCH ยังเป็นตามกำหนดใน 2Q68 ซึ่งจะหนุนให้งบดุลดีขึ้นและช่วยหนุนการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศที่กำลังจะมาถึง
ข่าวเด่น