ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วย นางพัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการ สทนช. ดร.วินัย วังพิมูล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สทนช. และเจ้าหน้าที่ สทนช. ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมหารือทวิภาคี กับ นายสิวะกอน มะลิวัน (Mr. Sivannakone Malivarn) รองเลขาธิการสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พร้อมด้วย คณะผู้แทนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขง สปป.ลาว เข้าร่วมการประชุมฯ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ณ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Secretariat: MRCS) นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
สทนช. และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือด้านน้ำระหว่างสองประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีขอบเขตความร่วมมือเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ครอบคลุมประเด็นเรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ นโยบายด้านทรัพยากรน้ำ การป้องกันภัยพิบัติและการแจ้งเตือนล่วงหน้า การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประเมินผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม กฎหมายและข้อบังคับ การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย และคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติลาว การเสริมสร้างศักยภาพในการจัดการทรัพยากรน้ำ สำหรับการประชุมทวิภาคีในครั้งนี้ เลขาธิการ สทนช. ได้กล่าวเน้นย้ำความพร้อมของประเทศไทยในการขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินงานร่วม (Joint Steering Committee) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการฝ่ายไทยผ่านการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านน้ำในประเทศ พร้อมทั้งการจัดเตรียมร่างแผนปฏิบัติการร่วม (Draft Action Plan) ระยะ 5 ปี ที่มุ่งเน้นในประเด็นการจัดทำโครงการร่วมในการพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้าและการส่งเสริมแนวทางการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในชุมชนริมแม่น้ำโขง การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ ตลอดจนการประชุมหารือประจำปีและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะเป็นกรอบแผนงานและกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของทั้งสองประเทศภายใต้ MOU
ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันหารือแนวทางในการขับเคลื่อนการยกระดับความร่วมมือผ่านการจัดทำแผนปฏิบัติงานร่วมระยะ 5 ปี ซึ่งจะได้รับการพิจารณาและเห็นชอบในการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานร่วมฯ ไทย - ลาว ครั้งที่ 1 ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 ณ สปป.ลาว ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจะเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านน้ำข้ามพรมแดน และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างสองประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในลุ่มน้ำโขงอย่างยั่งยืนต่อไป
ข่าวเด่น