เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ต้องพักไม่หลุดแนวรับจะอิงทางขึ้น"


วานนี้ตลาดปรับตัวขึ้นแรงรับข่าวจีนประกาศลด RRR 50bps และลดดอกเบี้ยซื้อคืน 10bps นอกจากนี้ข่าวการลงทุนของ GIP ภายใต้ BlackRock ผ่าน True IDC ช่วยหนุนจิตวิทยาการลงทุน Data Center หากยังมีแรงส่งให้ขึ้นต่อ การพักสั้นๆ เพื่อขึ้นไม่ควรลงมาหลุด 1213-1210 การขึ้นต่อมีแนวต้านหลักที่ 1235-1240 แต่ปกติที่บริเวณแนวต้านนี้จะทำให้ชะลอตัวได้อย่างน้อยในช่วงสั้น

ประเด็นสำคัญ

• รมว. คลังและผู้แทนการค้าสหรัฐฯ มีกำหนดเข้าพบกับรองนายกฯ จีนที่สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อเจรจานโยบายภาษี 

• เฟดคงดอกเบี้ยที่ 4.25-4.50% ตามคาด ประเมินว่ามีความไม่แน่นอนสูงจากนโยบายภาษีนำเข้า อาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อพร้อมกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจหรือ "stagflation" แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง โดยตลาดแรงงานยังคงเติบโตและอัตราการว่างงานต่ำ แต่เฟดระบุว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและการว่างงานมีแนวโน้มเพิ่ม ทำให้เฟดต้องตัดสินใจยากลำบาก

• PBOC ประกาศลดอัตราส่วนการกันสำรอง (RRR) สำหรับ ธพ. ลง 50bps และอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนลง 10bps 

• หลังการหารือระหว่าง นายกฯ, เครือ CP และซีอีโอ GIP ด้าน GIP-BlackRock ประกาศสนับสนุนเงินลงทุน Data Center และระบบที่เกี่ยวข้องในไทยผ่าน True IDC (บริษัทในเครือ CP) มูลค่า 1.05-1.75 แสนลบ. เป็นบวกต่อกลุ่มนิคมฯ โรงไฟฟ้า และสื่อสาร

• เปิดโผปรับ ครม. หลังผ่านงบ 69 คาดว่าใช้เวลาอีก 5 เดือน “สุพัฒนพงษ์” คัมแบ็กพลังงาน อาจหนุนหุ้นโรงไฟฟ้าช่วงสั้น

• กกร. ปรับลดคาดการณ์ ศก. ไทยปี 2568 สู่ 2.0-2.2% จากเดิมที่ 2.4-2.9% กังวลผลกระทบภาษีศุลกากรสหรัฐฯ 10% อาจกดดันการส่งออกเติบโตเพียง 0.3-0.9% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 1.5-2.5%

• รอง ปธน. สหรัฐฯ เผยว่าการเจรจาระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ เป็นไปในทางที่ดี และมีข้อตกลงที่จะทำให้อิหร่านกลับเข้าสู่ระบบ ศก. โลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับลง 1.8% วานนี้

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways หลังตลาดอยู่ระหว่างรอความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐ และติดตามการประกาศผลประกอบการ 1Q68 ของหุ้น Real Sector ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ FOMC ที่มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายคาดจะไม่มีผลต่อบรรยากาศลงทุนมากนัก อย่างไรก็ดีมองความไม่ชัดเจนของนโยบายภาษีของสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจโลกจะยังเป็นปัจจัยบั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีต่อการเติบโตของผลประกอบการ 2Q68 ทำให้บรรยากาศลงทุนยังเป็นไปอย่างระมัดระวังและทำให้ SET ปรับขึ้นได้จำกัด โดยมีแนวต้าน 1215-1235 จุด  ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”   

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มอง SET จะแกว่งตัว Sideways รอความชัดเจนมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐ และการทยอยประกาศผลประกอบการ 1Q68 ของ บจ. Real Sector ไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก และ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 1Q68-2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เลือก ADVANC TRUE BTG CPF CPALL OR

2. หุ้น Undervalued ซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ดี YoY และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง  แนะนำ  GULF MTC CBG SPRC GPSC

3. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY  2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50 : ADVANC BDMS CPALL PTT และ SET100 : BCH BTG AP

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำเก็งกำไรสำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบมาตรการภาษีสหรัฐซึ่งคาดราคาหุ้นจะฟื้นตัวเร็ว (High Beta) หากสงครามการค้ามีสัญญาณคลี่คลาย แนะนำ KTB BBL BCP PTT SCCC FTREIT AMATA

DAILY TOP PICKS

GULF: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจาก Bond Yield ลง และราคาก๊าซที่ปรับลง คาดว่าเป็นเป้าหมายของกองทุนThaiESGX มี SET ESG Ratings “AAA” ขณะที่ 1H68 คาดกำไรยังแข็งแกร่งจากขยายกำลังผลิต ส่วนการควบรวมกิจการกับ INTUCH ที่เสร็จสิ้นไปแล้วจะทำให้งบดุลบริษัทดีขึ้น เพิ่มศักยภาพในการกู้ยืมและช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยระยะกลาง

BBL: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากไหลกลับของ Fund Flow และคาดเป็นเป้าหมายกองทุน ThaiESGX เนื่องจากมี SET ESG Ratings “AAA” ขณะที่ยังเลือกเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร เนื่องจากมี Valuation ถูกที่สุด โดย PBV 0.45 เท่า และ PE 6.2 เท่า สำหรับปี 2568 และยังสามารถจ่ายปันผลสูง โดยคาดให้ Div. Yield ที่ระดับ 6.2% ต่อปี
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 พ.ค. 2568 เวลา : 12:23:09
09-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 9, 2025, 10:23 pm