การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ลุยหารือร่วม 2 สมาคมยาง และภาคเอกชนผู้รับซื้อยาง รับฟังปัญหา-อุปสรรคหาทางออกร่วมกัน ดันพยุงราคายาง – ควบคู่กับการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง เสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบกิจการยาง หวังสร้างเสถียรภาพตลาดยางท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน
วันนี้ (5 มิ.ย. 68) ในการประชุมทางไกลผ่านระบบ ZOOM – กยท. นำโดย นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย หารือร่วมกับภาคเอกชน ผู้ประกอบกิจการยาง ผู้แทนจากสมาคมน้ำยางข้นไทย และสมาคมยางพาราไทย รับฟังปัญหาอุปสรรคและกำหนดแนวทางบริหารจัดการตลาดยางให้ราคายางมีเสถียรภาพ
นายสุขทัศน์ เผยว่า กยท. นัดหารือร่วม 2 สมาคม คือ สมาคมน้ำยางข้นไทย และสมาคมยางพาราไทย และภาคเอกชนผู้ประกอบกิจการยาง เพื่อหาแนวทางแก้ไขสถานการณ์ราคายางพาราที่มีการปรับตัวลง ซึ่งมีสาเหตุจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในกลุ่มผู้ประกอบการปลายน้ำ ส่งผลให้เกิดการชะลอการซื้อผลผลิตยางและมีผลต่อเนื่องถึงราคายางในตลาดที่ปรับลดลง ซึ่ง กยท. พร้อมหาแนวทางและมาตรการช่วยเหลือ โดยวันนี้ กยท. ร่วมหารือกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับยางพารา ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการและผู้ใช้ยางภาคเอกชน มีการรับฟังปัญหา อุปสรรค ผลกระทบในมิติต่างๆ หาแนวทางแก้ไขสถานการณ์และหาทางออกร่วมกัน เพื่อบรรเทาผลกระทบและรักษาเสถียรภาพของตลาดยางพาราให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสุขทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กยท. จะใช้แนวทางการรักษาระดับราคา ผ่านกลไกเงินกองทุนของ กยท. เพื่อไม่ให้ราคายางปรับตัวลดลงไปกว่าเดิม โดย กยท. ได้ดำเนินโครงการสินเชื่อระยะสั้น สำหรับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตในการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิตยางพารา รวมถึง กยท. จะเร่งดำเนินโครงการเพื่อเสริมสภาพคล่องเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบกิจการยาง ผ่านการชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ที่ผู้ประกอบการกู้มาจากธนาคารพาณิชย์ โดยผู้ประกอบการจะต้องซื้อขายยางผ่านตลาดกลางของ กยท. นอกจากนี้ จากการที่สหภาพยุโรปประกาศให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศความเสี่ยงระดับต่ำ จึงเป็นโอกาสในการส่งออกยางไปยังกลุ่มประเทศยุโรปเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการที่ กยท. ได้ประสานงานกับทางกระทรวงพาณิชย์เพื่อขยายโอกาสในตลาดต่างประเทศและลดความเสี่ยงการผูกขาดตลาด เพื่อความหลากหลายของประเทศผู้ใช้ยาง ทำให้เกิดรายได้ที่มั่นคงเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ตลอดจนผู้ประกอบการในช่วงที่ตลาดยังมีความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
“กยท. พร้อมแสดงความรับผิดชอบโดยมองประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในระบบยางพาราของไทยเป็นสำคัญ โดยจะต้องครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่กลุ่มกลุ่มเกษตรกรและสถาบันเกษตรชาวสวนยางที่เป็นกลุ่มที่ควรได้รับการดูแลและช่วยเหลือ ตลอดจนกลุ่มผู้ประกอบกิจการยาง ทั้งนี้ ราคายางที่มีเสถียรภาพจะทำให้เกิดรายได้ที่มั่นคง เกิดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน” นายสุขทัศน์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับราคายางพาราที่ซื้อขายผ่านตลาดกลาง กยท. ล่าสุดวันนี้ (5 มิ.ย. 68) ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 65.75 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด ราคาอยู่ที่ 56.00 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 100%) ราคาอยู่ที่ 55.00 บาท/กิโลกรัม
ข่าวเด่น