การตลาด
Scoop : "ชาไทย" Soft Power ผลักดันความเป็นไทยดังไกลทั่วโลก


หากจะพูดถึงวัฒนธรรมร่วมของคนทั่วโลก หนึ่งสิ่งที่คงไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ไลฟ์สไตล์การดื่มเครื่องดื่มใส่น้ำแข็ง ที่วางอยู่เคียงข้างเราไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เช่น เวลาทำงาน ขับรถ กินข้าว เดินเล่น หรือนั่งชิลตามสถานที่ต่าง ๆ เราก็มักจะต้องการเครื่องดื่มคู่ใจมาช่วยเพิ่มสีสันให้กับชีวิตในแต่ละวันเสมอ แต่เดิมทีเครื่องดื่มที่คนส่วนใหญ่ทั่วโลกคุ้นเคยจะอยู่ในฝั่งของกาแฟ โกโก้ หรือเครื่องดื่มใส่นมที่ได้รับอิทธิพลจากโลกตะวันตก แต่ในปัจจุบันนี้ “ชา” ได้กลายเป็น Pop Culture ใหม่จากฝั่งเอเชีย ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ตั้งแต่ชานมแบบไต้หวัน หรือ Boba Tea, ชาเขียวมัทฉะจากญี่ปุ่น จนมาถึงยุคของ “ชาไทย” น้องใหม่ป้ายแดงของวงการชานมที่คนทั่วโลกกำลังตื่นตากับความอร่อย หอมมัน เข้มข้น อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนกลายเป็น Soft Power ที่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไทยในหลาย ๆ ด้าน
 
ชาไทย หรือ ชาเย็น เป็นเครื่องดื่มประเภทชานมที่มีสีส้ม มีการปรุงกลิ่นด้วยกลิ่นของวานิลา และเพิ่มความหวานมันด้วยนมข้นหวาน น้ำตาล และนมข้นจืดเป็นหลัก โดยนิยมเทใส่น้ำแข็งเพื่อความชื่นใจ ซึ่งคนไทยมีความชื่นชอบกันอยู่แล้วเป็นทุนเดิม แต่ในช่วง 10 ปีให้หลังมานี้ ชาไทยถูกพูดถึงและได้รับความนิยมในหมู่คนต่างชาติเป็นอย่างมาก จากจุดเริ่มต้นหลายสาเหตุ ทั้งการที่ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ มักจะมีเมนูชาไทยเสิร์ฟคู่กับอาหารไทยที่มีรสชาติเผ็ดจัด จนเป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องดื่มเย็นรสชาติหวานมันที่สามารถดับความเผ็ดร้อนได้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นที่รู้จักในวงเฉพาะ คล้าย ๆ กับเป็นการ Soft Opening ในเวทีตลาดโลกก็ว่าได้ แต่ต่อมา ทั้งจากที่ไทยเองเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มีโอกาสชิมรสชาติชาไทยที่ขายอยู่ทั่วทุกพื้นที่มากขึ้น และการเติบโตของอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ที่ได้ส่งออกวัฒนธรรมการกิน รวมถึงชาไทยบนพื้นที่สื่อมากขึ้น ประกอบกับการเติบโตของ Boba Tea หรือชานมไข่มุกจากไต้หวันที่ได้กรุยทางตลาดต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ผู้คนเปิดใจลิ้มรสชาไทยได้ง่ายขึ้น ซึ่งด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีคุณสมบัติเป็นเครื่องดื่มคลายร้อน รสชาติหวานเย็นชื่นใจ ชาไทยจึงสามารถเข้าไปครองใจคนทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว
 
ซึ่งด้วยธุรกิจชาไทยที่เติบโตอย่างมากในบ้านเรา มีการทำ Branding กันอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีการไปร่วม Collab กับธุรกิจอื่น เช่น ชาตรามือร่วมกับ Sushiro หรือการที่มีแบรนด์ใหญ่ ๆ ร่วมลงสนามออกเมนูชาไทยเพิ่มขึ้น เช่น Erewhon ที่ขายเครื่องดื่มไฮเอนด์จากสินค้าออแกนิคในสหรัฐ ก็ได้จับมือกับลิซ่า ลิษา มโนบาล ศิลปินระดับโลก ออกเมนูชาไทย ก็ทำให้ภาพลักษณ์ของชาไทยดูดีและมี Value เป็นอย่างมาก ซึ่งก็เลยทำให้ชาไทย กลายเป็นหนึ่งใน Asian Aesthetic ที่ดูมีรสนิยม มีสีสัน และดูมีเทส เช่นเดียวกับ K-Pop, Sushi หรือ มัทฉะลาเต้ที่ขบเคี้ยวตีคู่กันในตลาดเครื่องดื่ม สังเกตได้จากการเติบโตของคาเฟ่สไตล์        เอเชียนในอเมริกาและยุโรปที่จับตลาด “Thai Flavor” มากขึ้น ไล่ไปตั้งแต่การออกเมนูเครื่องดื่มชาไทย ไอศกรีมชาไทย เค้กชาไทย และอื่น ๆ อีกมากมาย หรือการได้รับจัดอันดับจากเว็บไซต์ “TasteAtlas” ที่ยกชาไทยให้เป็น 1 ใน 10 เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ที่ดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว
 
และด้วยกระแสของชาไทย ที่นับวันมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการขับเคลื่อนของโลก Social Media ที่เชื่อมถึงกันทั่วโลก ก็ทำให้มิติของ “ความเป็นไทย” ได้ถูกส่งออกไปในหลายแง่มุมากขึ้น เช่น เมนูอาหารไทย จากการที่คนมารีวิวชาไทยในร้านอาหารไทย หรือคอนเทนต์แนะนำแบรนด์ชาไทยในประเทศไทย ก็ทำให้ภาคการท่องเที่ยวได้ประโยชน์ร่วมด้วย ดังนั้นชาไทย จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ที่มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมไปกับการนำเสนอความเป็นไทยออกสู่สายตาชาวโลกได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

LastUpdate 03/07/2568 01:31:14 โดย : Admin
03-07-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 3, 2025, 4:35 pm