ความร้าวฉานระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ อีลอน มัสก์ ที่มีชนวนหลักจากร่างกฎหมาย One Big Beautiful Bill ที่อีลอนมองว่าจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ เพราะจะทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางในระดับสูงมากถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น ล่าสุดเขาได้สานต่อจุดยืนการต่อต้านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ด้วยการจัดตั้งพรรคใหม่เพื่อโค่นล้มอำนาจทรัมป์ และเรียกคะแนนเสียงตั้งแต่ตอนนี้ด้วยการออกมาสนับสนุน Bitcoin แทนการใช้เงิน Fiat
อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับโลก ที่พ่วงด้วยตำแหน่งซีอีโอของ Tesla และ SpaceX นับว่าเสมือนเป็นมือขวาของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเลยก็ว่าได้ เพราะอีลอนได้ทุ่มเงินไปแล้วกว่า 288 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงปี 2024 ของทรัมป์ จนทรัมป์ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งและก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐในปัจจุบัน อีกทั้งภายหลังการเลือกตั้งนี้ อีลอนยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำดูแลหน่วยงาน Department of Government Efficiency (D.O.G.E) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อปฎิรูปโครงสร้างการบริหารงานของสหรัฐ สู่เป้าหมายลดการใช้งบประมาณของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความไม่ลงรอยหลังจัดตั้งรัฐบาลก็ได้เกิดขึ้น เมื่ออีลอนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมาย One Big Beautiful Bill เพื่อลดภาษีของทรัมป์ โดยเปิดฉากความขัดแย้งตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่อีลอนได้วิจารณ์ว่าร่างกฎหมายนี้เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายจำนวนมหาศาล ซึ่งจะขยายเพดานหนี้ของสหรัฐขึ้นไปอีก 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ประเทศขาดดุลหนักถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือทำให้ประเทศเกิดวิกฤตหนี้ในที่สุด และภายหลังจากที่ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากส.ส.ในสภาคองเกรส และทรัมป์ได้มีการลงนามประกาศใช้เป็นกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ทำให้อีลอนตอบโต้ด้วยการประกาศจัดตั้งพรรคใหม่ของตัวเองที่ชื่อว่า “America Party” พร้อมประกาศทุ่มเงินโค่นล้ม ส.ส.พรรครีพับลิกันที่สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ ในการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2026 ที่ต้องเลือก ส.ส. และ ส.ว. ใหม่ (โดยเฉพาะต้องเลือก ส.ส.ใหม่ทั้งหมด) เพื่อหวังจะทำลายอำนาจของทรัมป์
ล่าสุดนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าพรรค America Party ได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการกับหน่วยงานการเลือกตั้งของสหรัฐแล้วหรือยัง อีลอนเองก็ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของพรรคมากไปกว่านี้ว่าจะมีรูปแบบเป็นอย่างไร เพราะตัวเขาไม่มีสิทธิ์ลงสมัครเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐได้ เนื่องจากเกิดที่แอฟริกาใต้ แต่การที่เขาออกมาตอบกลับผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม X ว่าพรรคของตัวเองสนับสนุน Bitcoin เนื่องจากเงิน Fiat หรือเงินที่กำหนดมูลค่าโดยรัฐบาล เช่น เงินดอลลาร์นั้น หมดหวังไปแล้ว ตรงตามแนวคิดของเขาที่ออกมาวิจารณ์การใช้เงินอย่างสิ้นเปลือง และการคอร์รัปชันของรัฐบาล ทำให้ประเทศไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งสอดคล้องกับคุณสมบัติของ Bitcoin สกุลเงินที่รันด้วยระบบกระจายศูนย์ (Decentralized System) มีระบบฉันทามติ Proof of Work คล้ายกับการลงคะแนนเสียง อีกทั้งยังมีความโปร่งใสที่เปิดให้ทุกคนตรวจสอบได้จากทุกธุรกรรมที่บันทึกไว้ใน Blockchain ดังนั้น หลังจากการออกมามอบความหวังให้กับการเงินรูปแบบใหม่นี้ ก็ผลักดันราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นสูงทันที
นอกจากนี้ อีลอนยังออกมาเตือนถึงหนี้สาธารณะของสหรัฐ ที่พุ่งสูงเกิน 37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และร่างกฎหมายของทรัมป์ที่ผลักดันเพดานหนี้ขึ้นไปอีก อาจจะทำให้เกิดการเร่งให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง โดย ณ ปัจจุบันสภาวะตลาดจากดัชนี Bitcoin Fear & Greed Index อยู่ในช่วง Greed ที่แสดงถึงความต้องการ Bitcoin และราคาที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ณ ปัจจุบัน
ข่าวเด่น