
“สถาบันศิโรจน์ผลพันธิน” ร่วมกับ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชน ทั่วประเทศ เรื่อง “บทบาทมหาวิทยาลัยไทยกับ Soft Power” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,128 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 15-18 กรกฎาคม 2568 สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนคิดว่าประเทศไทยควรใช้ Soft Power เป็นยุทธศาสตร์หลักในการสร้างภาพลักษณ์และความได้เปรียบในเวทีโลกได้อย่างไร
อันดับ 1 ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและเทศกาลระดับโลก 70.78%
อันดับ 2 ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น อาหาร แฟชั่น ดนตรี ภาพยนตร์ 68.12%
อันดับ 3 ใช้สื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์เผยแพร่ความเป็นไทยสู่โลก 57.64%
2. Soft Power เรื่องใดที่ประชาชนเห็นว่ามีศักยภาพสูงสุดในการผลักดันเศรษฐกิจไทยในอนาคต
อันดับ 1 ธุรกิจสุขภาพ ความงาม และการดูแลสุขภาพแบบไทย 58.24%
อันดับ 2 ดนตรี ศิลปะ แฟชั่น และภาพยนตร์ 55.85%
อันดับ 3 ศิลปิน-นักออกแบบร่วมสมัย และอุตสาหกรรมดิจิทัลครีเอทีฟ 53.63%
3. ประชาชนคิดว่า “มหาวิทยาลัยไทย” ควรมีบทบาทอย่างไรในการพัฒนา Soft Power ของประเทศ
อันดับ 1 เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม Soft Power 61.08%
อันดับ 2 เป็นเวทีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม จัดนิทรรศการ การแสดง งานเทศกาลวัฒนธรรมไทย 59.40%
อันดับ 3 เปิดหลักสูตรหรือวิชาเกี่ยวกับ Soft Power ไทย 51.24%
4. ประชาชนคิดว่า “นักศึกษาไทย” ควรมีบทบาทอย่างไรในการส่งเสริม Soft Power ของประเทศ
อันดับ 1 เป็นผู้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ 64.18%
อันดับ 2 มีส่วนร่วมในงานวิจัยหรือโครงการด้าน Soft Power ร่วมกับมหาวิทยาลัย 62.50%
อันดับ 3 เป็นนักสร้างสรรค์เนื้อหา (content creator) ที่เชื่อมโยงความเป็นไทยกับโลก 58.33%
5. ประชาชนคิดว่ามหาวิทยาลัยไทยมีศักยภาพที่จะขับเคลื่อน Soft Power ให้เกิดผลกระทบในระดับนานาชาติหรือไม่
อันดับ 1 มีศักยภาพในบางสาขา แต่ยังต้องพัฒนาเพิ่มเติม 43.97%
อันดับ 2 มีศักยภาพและควรได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง 29.08%
อันดับ 3 ศักยภาพยังไม่เพียงพอ ควรเน้นสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ 20.66%
อันดับ 4 ยังไม่สามารถประเมินได้ 6.29%
6. ประชาชนอยากเห็นความร่วมมือด้านใดมากที่สุดระหว่างมหาวิทยาลัยไทยกับต่างประเทศในการพัฒนา Soft Power
อันดับ 1 มีหลักสูตรความร่วมมือระดับนานาชาติ 65.72%
อันดับ 2 ร่วมวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้าน Soft Power 56.66%
อันดับ 3 ผลิตบุคลากรคุณภาพให้กับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 54.53%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
สรุปวิเคราะห์ผลโพล : บทบาทมหาวิทยาลัยไทยกับ Soft Power
“สถาบันศิโรจน์ผลพันธิน” ร่วมกับ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “บทบาทมหาวิทยาลัยไทยกับ Soft Power” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,128 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 15-18 กรกฎาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองว่าไทยควรใช้ Soft Power เป็นยุทธศาสตร์หลักในการสร้างภาพลักษณ์และความได้เปรียบในเวทีโลกด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและเทศกาลระดับโลก ร้อยละ 70.78 เรื่องที่มองว่ามีศักยภาพสูงในการผลักดันเศรษฐกิจไทยในอนาคต คือ ธุรกิจสุขภาพ ความงาม และการดูแลสุขภาพแบบไทย ร้อยละ 58.24 ทั้งนี้มหาวิทยาลัยไทยควรมีบทบาทในการพัฒนา Soft Power ของประเทศด้วยการเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม Soft Power ร้อยละ 61.08 นักศึกษาไทยควรมีบทบาทเป็นผู้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ร้อยละ 64.18 ในภาพรวมมองว่ามหาวิทยาลัยมีศักยภาพขับเคลื่อน Soft Power ในบางสาขาและยังต้องพัฒนาเพิ่มเติม ร้อยละ 43.97 สุดท้ายอยากเห็นมหาวิทยาลัยไทยร่วมมือกับต่างประเทศในการพัฒนาหลักสูตรความร่วมมือระดับนานาชาติ ร้อยละ 65.72
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า Soft Power ไทยมีศักยภาพก้าวสู่ระดับโลกหากรัฐบาล เดินเกมให้ถูกทาง โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจสุขภาพแบบไทยที่มีศักยภาพสูงในสายตาประชาชน ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยไทยสามารถช่วยขับเคลื่อนได้ด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่เชื่อมโยงไทยสู่เวทีโลก รัฐบาลจึงต้องมีนโยบายที่ชัดเจน จับต้องได้ ไม่ใช่เพียงวาทกรรม พร้อมเปิดพื้นที่ให้นักวิจัย เยาวชน และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533
ผศ.ดร.พรชนิตว์ แก้วเนตร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างมีความเชื่อมั่นสูงว่าไทยสามารถใช้ Soft Power เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ได้ในเชิงเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ เช่น การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ แต่ยังไม่มั่นใจว่ารัฐ/เอกชนจะจัดการด้านสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มได้ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึง Soft Power ที่เห็นว่ามีศักยภาพสูง คำตอบใน 3 อันดับแรกกลับอยู่ในช่วงคะแนน 50-60% ซึ่งตีความได้ว่า เห็นด้วยพอสมควรว่าเป็น Soft Power ที่มีศักยภาพเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังไม่มั่นใจเต็มที่ว่าไทยจะ
ผลักดันได้สำเร็จ และคาดหวังให้มหาวิทยาลัยไทยเป็นกลไกกลางในการพัฒนา Soft Power ทั้งการสร้างองค์ความรู้ เป็นเวทีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและพัฒนาหลักสูตรเฉพาะทาง ทั้งยังมองว่านักศึกษาคือกำลังสำคัญในการเป็น Soft Power รุ่นใหม่ แต่ศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทยยังไม่เต็มร้อย โดยเฉพาะด้านโครงสร้างความร่วมมือและทุนวิจัย จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างเครือข่ายและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
ผศ.ดร.พรชนิตว์ แก้วเนตร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ข่าวเด่น