การค้า-อุตสาหกรรม
LIV-24 เปิดเกมรุก Smart Tech ดันคลังสินค้าไทยสู่ยุคอัจฉริยะ ปั้นศูนย์กระจายสินค้าทันสมัย รับแรงกระเพื่อมอุตสาหกรรม - การลงทุน EEC


LIV-24 ผู้นำด้านโซลูชันเทคโนโลยีความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ เดินหน้ารุกภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เปิดตัวโซลูชัน “Smart Warehouse” ปฏิวัติงานคลังสินค้าไทยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตั้งแต่ AI CCTV Analytics ไปจนถึงการ รวมศูนย์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ มุ่งเป้าช่วยภาคธุรกิจลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัย และเสริมความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรองรับคลื่นการเติบโตของอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ใหม่ของภูมิภาค

นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิฟ-24 จำกัด (LIV-24) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดคลังสินค้าไทยมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยกว่า 9.3% ต่อปี คิดเป็นพื้นที่รวม 4.76 ล้าน ตร.ม. ภายในปี 2568 ซึ่งมาจากปัจจัยหนุนหลายด้าน ทั้งการย้ายฐานผลิตมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร รวมถึงแรงส่งจาก E-Commerce และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน

 

ตลาดคลังสินค้าในไทยมีดีมานด์สูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ แต่การแข่งขันยังคงเข้มข้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งยกระดับบริการ เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความแม่นยำ และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีจึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการ “ปลดล็อก” ขีดจำกัดเดิม โดย LIV-24 พัฒนาโซลูชัน Smart Tech ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับภาคโลจิสติกส์และคลังสินค้า เพื่อให้สามารถบริหารจัดการพื้นที่และกระบวนการได้อย่างชาญฉลาด ปลอดภัย และแม่นยำ

2 โซลูชันเด่น ยกระดับคลังสินค้าไทยด้วย Smart Tech

1. Loading Bay Flow Management – จัดการจราจรคลังสินค้าอย่างชาญฉลาด

โซลูชันจัดระเบียบการเข้า-ออกของรถขนส่งและผู้มาติดต่อ ลดความแออัดและรอคิวนาน พร้อมเพิ่มความปลอดภัยและความแม่นยำในการทำงานด้วยระบบ:

VMS (Visitor Management System): ระบบลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านออนไลน์ ลดขั้นตอนหน้างาน พร้อมคัดกรองสิทธิ์การเข้าถึง
 
LPR (License Plate Recognition): สแกนป้ายทะเบียนรถแบบอัตโนมัติ ลดภาระเจ้าหน้าที่ ควบคุมการเข้าออกให้คล่องตัว
 
Time & Performance Tracking: ใช้ AI ตรวจสอบระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละจุดของกระบวนการโหลดสินค้า พร้อมแจ้งเตือนเมื่อพบความล่าช้า เพื่อให้ทีมสามารถปรับปรุงการทำงานได้ในทันที
 
2. Warehouse Monitoring – ตรวจสอบความปลอดภัยในคลังแบบเรียลไทม์ด้วย AI

สามารถตรวจจับเหตุผิดปกติ พฤติกรรมเสี่ยง และสภาพแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โดยครอบคลุมฟังก์ชันสำคัญ:

ระบบตรวจจับผู้บุกรุก (Intruder Detection) ตรวจจับการเคลื่อนไหวในโซนต้องห้าม หรือนอกเวลาปกติ เช่น พื้นที่เก็บสินค้ามูลค่าสูง หรือโซนที่ต้องใช้สิทธิ์เฉพาะบุคคลในการเข้าถึง
 
ระบบตรวจจับเปลวไฟและควัน (Flame & Smoke Detection) AI วิเคราะห์ภาพเพื่อจับควันหรือแสงเปลวไฟได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ช่วยแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ได้รวดเร็ว ก่อนไฟลุกลาม
 
ระบบตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง (Behavior Detection) ตรวจจับกรณีที่พนักงานล้ม ทรุดตัว การทะเลาะวิวาท หรือพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น เล่นโทรศัพท์ขณะปฏิบัติงาน
 
ระบบตรวจสอบอุปกรณ์นิรภัย (PPE Detection) ตรวจสอบว่าพนักงานใส่หมวกนิรภัย ชุดสะท้อนแสง หน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์ PPE ตามข้อกำหนดครบถ้วนก่อนเข้าทำงาน
 
โดยระบบทั้งหมดถูกเชื่อมต่อกับศูนย์บัญชาการกลาง (Command Centre) ที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมการรายงานผลได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถป้องกันเหตุก่อนเกิด หรือสามารถรับมือเหตุฉุกเฉินได้ก่อนบานปลาย ลดผลกระทบต่อธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 
รวมศูนย์ข้อมูลให้ “คลัง” ฉลาดขึ้น

Pain point สำคัญของการบริหารจัดการคลังสินค้าในปัจจุบัน คือการเก็บข้อมูลที่ยังแยกส่วนกันอยู่ในแต่ละระบบ ส่งผลให้การตรวจสอบและการนำข้อมูลไปใช้ต่อยอดทำได้ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ LIV-24 จึงเข้ามาช่วยแก้ไขจุดนี้ ผ่านการรวมศูนย์ข้อมูลไว้ที่จุดเดียว (Data Centralization) เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลการดำเนินงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการตัดสินใจได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น

นอกจากนี้ ระบบการรวมศูนย์ข้อมูล ยังช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านแรงงาน พื้นที่ และอุปกรณ์ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีคลังสินค้าหลายแห่ง ก็ยิ่งต้องลงทุนเพิ่มในห้องควบคุมความปลอดภัย เช่น ห้องดูภาพจากกล้อง CCTV ที่ต้องใช้ทั้งพื้นที่ จอภาพ และ บุคลากรในการเฝ้าระวังที่มากขึ้น แต่หากเชื่อมต่อข้อมูลจากทุกไซต์มายังศูนย์บัญชาการกลาง ก็จะสามารถบริหารจัดการทั้งหมดได้จากจุดเดียว ช่วยลดภาระต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมความปลอดภัยได้อย่างเป็นระบบ

“เราเชื่อมั่นว่า Smart Tech ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือแรงขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมไทยให้พร้อมแข่งขันในเวทีโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่างเขต EEC ที่กำลังกลายเป็นศูนย์กลางการลงทุนและนวัตกรรมของภูมิภาค ด้วยประสบการณ์กว่า 6 ปี ของ LIV-24 และการพัฒนาโซลูชันความปลอดภัยเพื่อการอยู่อาศัย ขยายผลสู่กลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น BGC, V.T. Garment และ BAFS เราพร้อมนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาออกแบบเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์และใช้งานได้จริง เพื่อผลักดันขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในช่วงระหว่างการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญนี้ พร้อมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน และก้าวทันอนาคต” คุณนิรมลกล่าวปิดท้าย

สนใจรับคำปรึกษาหรือรายละเอียดการติดตั้ง ลิฟ-24 ให้กับธุรกิจของคุณ ติดต่อ 02 688 7555 หรือ https://bit.ly/46UnKPi
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ส.ค. 2568 เวลา : 14:26:20
25-08-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ August 25, 2025, 2:53 pm