การตลาด
Special Report : Netflix ลงทุนในไทย 6.5 พันล้านบาท ตอกย้ำไทยเป็นศูนย์กลางคอนเทนต์ของเอเชีย


 

คำว่า ลูกรัก Netflix อาจจะไม่ใช่คำอธิบายที่เกินจริงเลยสำหรับประเทศไทย เพราะล่าสุดทาง Netflix บริษัทข้ามชาติที่ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ได้ทุ่มเงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6,500 ล้านบาท ลงทุนผลิตคอนเทนต์ในไทย ซึ่งเป็นการเผยแพร่ทั้งความบันเทิง วัฒนธรรม ความเป็นอยู่แบบไทยๆ ที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่ละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น อันเป็นการตอกย้ำและสร้างความเข้มแข็งให้กับ Soft Power ของไทย ที่กำลังผลักดันให้ประเทศของเราก้าวขึ้นสู่อุตสาหกรรมความบันเทิงแนวหน้าในระดับสากล
 
ทางด้านของ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) มีการรายงานว่า ช่วงระหว่างปี 2564 – 2567 Netflix ได้มีการลงทุนผลิตคอนเทนต์ไทยกว่า 6,500 ล้านบาท ซึ่งได้สร้าง Netflix Original Content (ที่เป็นคอนเทนต์ของไทยด้วยเงินทุนจาก Netflix) ไปแล้วมากกว่า 20 เรื่อง โดย  15 เรื่องติดอันดับ Global Top 10 สำหรับคอนเทนต์ในหมวด Non-English Content ที่มียอดชั่วโมงการรับชมทะลุ 750 ล้านชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีการซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และซีรี่ย์ไทยที่มีอยู่เดิมให้ลงสตรีมมิ่งที่ทาง Netflix ซึ่งเป็นการเปิดประตูเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ ที่ได้ทำความรู้จักคอนเทนต์ของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น รับรู้มุมมองการเล่าเรื่องของคนไทย วิถีชีวิต วัฒนธรรมที่สอดแทรกลงอยู่ในคอนเทนต์ ดารานักแสดงของไทย ที่ทำให้เกิดการสร้างงานกว่า 13,500 ตำแหน่ง ครอบคลุมหลากหลายบทบาทในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทย และดึงดูดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่สร้างรายได้ให้กับไทยถึงปีละประมาณ 3 แสนล้านบาท
 
โดยเหตุผลที่คอนเทนต์ไทย มีการลงทุนจาก Netflix ในมูลค่ามหาศาล สามารถดึงดูดผู้ชมทั่วโลก และต่อยอดให้เกิดการอยากมาท่องเที่ยวในไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพขนาดนี้ เป็นเพราะประเทศไทยมีความร่ำรวยทางมรดกวัฒนธรรมเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเชีย (ตามการรายงานของ U.S. News & World Report) ที่พิจารณาจาก 5 ปัจจัย ได้แก่ การเข้าถึงวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์อันรุ่งเรือง, อาหาร, สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และความดึงดูดทางภูมิศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นต้นทุนที่เข้มแข็งของประเทศไทยอยู่แล้ว และเมื่อประกอบกับนโยบายของรัฐบาล One-Family-One-Soft Power (OFOS) ที่มุ่งผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยวางเป้าหมายว่าจะทำให้เกิดการสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง และสร้างรายได้กว่า 4 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการออกมาตรการสนับสนุนอย่าง Cash Rebate 30% ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลาง Hub กองถ่ายระดับโลก ที่ดึงดูดการถ่ายทำคอนเทนต์ในไทยมากขึ้น ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น สะท้อนจากการศึกษาของ CEA ที่พบว่า การลงทุนของ Netflix จะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ อีกทั้งยังสามารถส่งต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้ และสามารถเพิ่มมูลค่าได้ถึง 2 เท่า
 
โดยพิจารณาได้จากทาง Netflix ไม่ได้เพียงลงทุนทางด้านคอนเทนต์เท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการสร้างบุคลากรในแวดวงภาพยนตร์ไทย ทั้งการจัดโครงการฝึกอบรมและเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารกองถ่าย การจัดการงบประมาณสำหรับงานโปรดักชัน การควบคุมดูแลขั้นตอนหลังการถ่ายทำ หรือจะเป็นโครงการ Reel Life Camp ที่ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ และสื่อโทรทัศน์รุ่นใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพในวงการบันเทิง ก็ถือได้ว่าเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งเอเชีย ที่มีอิทธิพลทั่วโลกมากยิ่งขึ้น
 
จริง ๆ เราก็สามารถสังเกตได้เลยจากในช่วงระยะเวลา 10 ปี ซีรี่ย์ ภาพยนตร์ นักแสดงของไทยมีบทบาทอยู่ในสื่อกระแสหลักมากยิ่งขึ้น โดยภาพลักษณ์ของประเทศไทยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยว ที่มาซึมซับวัฒนธรรมในด้านเดิม ๆ อีกต่อไป แต่ในตอนนี้คนทั่วโลกได้รู้จักกับความเป็นไทยในหลากหลายรูปแบบมากขึ้น บริโภคง่ายขึ้นจากการเสพคอนเทนต์ของไทย ซึ่งกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในจุดหมายปลายทางใหม่ เช่น พื้นที่ท้องถิ่น การตามรอยซีรี่ย์ อีกทั้งยังเป็นการเจาะกลุ่มตลาดใหม่ โดยทั้งหมดนี้เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตได้อย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และยืนยาวกว่าเดิม

LastUpdate 24/08/2568 21:04:39 โดย : Admin
25-08-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ August 25, 2025, 6:14 am