เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
สศค. เผยเศรษฐกิจภูมิภาคเดือน ก.ค.68 รับปัจจัยหนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค โดยเฉพาะภาคกลาง กทม.ปริมณฑล และภาคเหนือ


เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกรกฎาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค โดยเฉพาะภาคกลาง กทม. และปริมณฑล และภาคเหนือ ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวหดตัวในทุกภูมิภาคยกเว้นภาคกลาง และภาคตะวันตกที่ขยายตัวได้

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกรกฎาคม 2568 ว่า “เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกรกฎาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค โดยเฉพาะภาคกลาง กทม. และปริมณฑล และภาคเหนือ ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวหดตัวในทุกภูมิภาคยกเว้นภาคกลาง และภาคตะวันตกที่ขยายตัวได้” โดยมีรายละเอียดดังนี้

เศรษฐกิจภาคกลางในเดือนกรกฎาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค การท่องเที่ยว อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวที่ร้อยละ 72.8 ต่อปี ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -11.9 และ -16.4 ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 0.1 และ 11.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -7.1 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.7 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.9 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -43.0 และ -74.4 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้งเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 94.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวน
ผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 1.6 และ 4.3 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ในเดือนกรกฎาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 9.2 และ 4.3 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -0.2 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 12.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -4.8 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.5 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.6 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -24.5 และ -57.1 ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 5.6 และ 13.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ อีกทั้งเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 94.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -2.0 และ -5.7 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนกรกฎาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค อีกทั้งเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 6.8 และ 3.4 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -11.0 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -16.7 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.5 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.8 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -57.7 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 21.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -50.9 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 278.7 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังในจังหวัดยโสธร เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 67.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 69.5 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -3.4 และ -4.7 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนกรกฎาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 11.1 และ 0.3 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -18.3 และ -6.5 ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 10.3 และ 0.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 52.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.2 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -56.3 และ -47.5 ต่อปี ตามลำดับ เช่นเดียวกับเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่หดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 84.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 86.8 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -7.5 และ -8.5 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนกรกฎาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ เงินทุนของโรงงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนที่ขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 7.9 ต่อปี ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -13.8 -15.5 และ -8.3 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.7 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.9 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -31.1 และ -67.3 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 126.5 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดเพชรบุรี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 94.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -0.4 ต่อปี 

เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนกรกฎาคม 2568 การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และภาคการบริการชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวที่ร้อยละ 0.2 ต่อปี ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -16.4 -12.2 และ -4.2 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.5 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.4 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -40.7 และ -35.0 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้งเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 80.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 82.8 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -4.5 และ -9.3 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2568 การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และภาคการบริการชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 6.2 ต่อปี ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -13.1 -3.8 และ -0.2 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 53.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.1 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -45.6 และ -42.7 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้งเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 88.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 91.2 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -8.2 และ -17.1 ต่อปี ตามลำดับ
 

LastUpdate 28/08/2568 21:12:08 โดย : Admin
07-09-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ September 7, 2025, 4:01 pm