
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความคาดหวังต่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 32” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,191 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 2-5 กันยายน 2568 สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนคิดว่า “ภารกิจเร่งด่วน” ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่คือเรื่องใด
อันดับ 1 แก้ปัญหาค่าครองชีพและปากท้อง 68.26%
อันดับ 2 แก้ปัญหาไทย-กัมพูชา 49.03%
อันดับ 3 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน 44.58%
อันดับ 4 ปราบปรามคอร์รัปชัน 33.59%
อันดับ 5 แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม 33.08%
2. ประชาชนเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะสามารถ“แก้ปัญหาของประเทศได้”มากน้อยเพียงใด
อันดับ 1 เชื่อมั่นปานกลาง 56.09%
อันดับ 2 เชื่อมั่นน้อย 25.94%
อันดับ 3 ไม่เชื่อมั่นเลย 13.27%
อันดับ 4 เชื่อมั่นมาก 4.70%
3. ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่หากรัฐบาลใหม่ประกาศ“ยุบสภาภายใน 4 เดือน”เพื่อเลือกตั้งใหม่
อันดับ 1 เห็นด้วย เพราะอยากให้คืนอำนาจให้ประชาชน 76.66%
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้รัฐบาลทำงานต่อ เร่งแก้ปัญหาต่าง ๆ 13.01%
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 10.33%
4. สิ่งที่ประชาชนอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
อันดับ 1 ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ 53.81%
อันดับ 2 ลดค่าครองชีพ สร้างงาน แก้ความยากจน 44.09%
อันดับ 3 บริหารบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน 37.01%
อันดับ 4 ทำตามสัญญา ยึดประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นหลัก 35.70%
อันดับ 5 แก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างเด็ดขาด 22.05%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความคาดหวังต่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 32” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,191 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 2-5 กันยายน 2568 พบว่า ภารกิจเร่งด่วนที่อยากให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ดำเนินการมากที่สุด คือ การแก้ปัญหาค่าครองชีพและปากท้อง ร้อยละ 68.26 ในขณะที่ความเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะสามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ อยู่ในระดับปานกลางร้อยละ 56.09 นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 76.66 เห็นด้วยหากรัฐบาลใหม่ประกาศยุบสภาภายใน 4 เดือน เพื่อเลือกตั้งใหม่ และสิ่งที่อยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่มากที่สุดคือ ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 53.81
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ไม่ว่านายกฯ คนใหม่จะเป็นใคร ประชาชนก็ยังคงกังวลกับปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และปากท้อง จนมีเสียงเรียกร้องให้คืนอำนาจผ่านการยุบสภาในเวลาอันสั้น สะท้อนภาวะ “วิกฤตความศรัทธาต่อวาจาของนักการเมือง” การทำหน้าที่ของนายกฯ ใหม่จึงเต็มไปด้วยความท้าทายทั้งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ บริหารงานอย่างโปร่งใส และทำตามสัญญาที่ให้ไว้เพื่อกอบกู้ความไว้วางใจจากประชาชน
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เบญจพร พึงไชย อาจารย์หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต อธิบายว่า ผลสำรวจสะท้อนถึงปัญหาปากท้องซึ่งยังเป็นปัญหาที่ประชาชนต้องการให้นายกรัฐมนตรี คนใหม่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้ามาแก้ไขมากที่สุด นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้อยู่ในระดับปานกลาง ก็เป็นสัญญาณว่าประชาชนให้โอกาสนายกรัฐมนตรีในการนำพาประเทศ เท่ากับว่าจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะต้องเร่งสร้างผลงานเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นจากประชาชน ดังนั้น สิ่งที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลควรดำเนินการ คือ การวางยุทธศาสตร์ และสิ่งสำคัญที่สุดคือการแสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งผลสำรวจนี้ประชาชนต้องการให้เร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและโปร่งใส รวมถึงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อหวังให้มีรัฐบาลที่มีความชอบธรรม และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย เพราะปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้ และที่สำคัญภายใต้ ครม.อนุทิน 1 จะเป็นอย่างไรคงต้องติดตาม...
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เบญจพร พึงไชย อาจารย์หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ข่าวเด่น