
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงพื้นที่ต่อเนื่องรับฟังความคิดเห็นและสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ ครั้งนี้พบผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริม พร้อมสำรวจย่านการค้าวัดโพธิ์พูดคุยกับผู้ประกอบการค้าปลีก พบปัญหาเศรษฐกิจคือเรื่องหลักที่ภาคธุรกิจขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไข ผู้บริโภคระวังการจับจ่ายมากขึ้น ต้นทุนการผลิตและราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น ขอให้ภาครัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความใส่ใจในคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก สินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศอาจทำลายภาพลักษณ์สินค้าไทย ขอให้เร่งปราบปรามสินค้าด้อยคุณภาพให้หมดไป เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ปัจจุบันภาครัฐจำเป็นต้องลงรายละเอียดในการปฏิบัติราชการมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกสถานการณ์ล้วนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจประเทศตามความเกี่ยวเนื่องระหว่างกัน การเดินเกมส์ให้ทันความท้าทายจะช่วยให้ภาคธุรกิจไทยสามารถรับมือทุกเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด โดยมีภาครัฐให้การสนับสนุนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอย่างแข็งแกร่ง

การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุนของกรมฯ และสำรวจย่านการค้าวัดโพธิ์พบปะผู้ประกอบการค้าปลีก (จำหน่ายของที่ระลึก) ในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเชิงรุกที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจในทุกมิติ โดยกรมฯ พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นทั้งปัญหา อุปสรรค ความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ รวมทั้ง แนวทางการพัฒนาธุรกิจในมุมมองของผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐสามารถนำความคิดเห็นนั้นมาวางแผนพัฒนาผู้ประกอบการ/ธุรกิจได้ตรงตามความต้องการ รวมทั้ง นำมาวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อสร้างเป็นโมเดลการแก้ปัญหาของภาคธุรกิจ พร้อมนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอื่นที่มีลักษณะทางกายภาพที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือสนับสนุนของภาครัฐมีความรอบด้านมากขึ้น


อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ลงพื้นที่พูดคุย คือ บริษัท เฮียเล็กเกาเหลาหมูสามอย่าง จำกัด เป็นผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุน โดยบริษัทฯ ได้ผ่านการอบรมพัฒนาธุรกิจจากกรมฯ 2 กิจกรรม คือ 1) กิจกรรมการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (B2B Franchise) รุ่นที่ 27 ปี 2567 และ 2) กิจกรรมยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard) ปี 2567 จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตั้งแต่ปี 2566 เป็นธุรกิจขนาดกลาง ประกอบกิจการขายอาหารและเครื่องดื่ม โดยร้านเฮียเล็กเกาเหลาหมูสามอย่างในตำนานเริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ในตลาดพาหุรัด ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ถนนเยาวราช และขยายธุรกิจเป็นแฟรนไชส์ มี8 สาขาทั่วประเทศ เป็นที่รู้จักจากเมนูเกาเหลาที่เครื่องแน่น ทั้งหมูชิ้น หมูกรอบ และหมูสับ รวมถึงเมนูอื่นๆ เช่น ก๋วยจั๊บ ต้มเล้ง และยำหมูย่าง เป็นต้น


จากการพูดคุยกับ นายวสันต์ เอื้ออำนวยชัย CEO บริษัท เฮียเล็กเกาเหลาหมูสามอย่าง จำกัด ทำให้ทราบว่า ผู้ประกอบการไทยกำลังเผชิญความท้าทายด้านเศรษฐกิจมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะกำลังซื้อที่ลดลงอย่างชัดเจน ผู้บริโภคระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น กระแสเงินสดของภาคธุรกิจลดลง ส่งถึงผลประกอบการระยะยาว อีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ต้นทุนการผลิตและต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารที่มีการใช้ของสดจำนวนมากในแต่ละวัน ต้นทุนส่วนใหญ่จึงใช้ในการจัดซื้อวัตถุดิบดังกล่าว เมื่อต้นทุนสูงขึ้นแต่ราคาจำหน่ายหน้าร้านยังคงเท่าเดิม ทำให้กำไรลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการประกอบธุรกิจที่ดีและภาคธุรกิจสามารถอยู่ได้ ต้นทุน กำไร และผลประกอบการควรไปในทิศทางเดียวกัน หรือหากมีความแตกต่างก็ไม่ควรต่างกันมากเกินไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องทบทวนกระบวนการบริหารจัดการธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ปรับลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นลง และใช้ระบบการบริหารต้นทุนที่รอบคอบและรัดกุมมากขึ้น โดยไม่มีการปรับลดจำนวนพนักงาน แต่ใช้ระบบการเกลี่ยงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ซึ่งการแก้ไขปัญหาข้างต้นไม่เป็นการทำร้ายหรือซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจให้แย่ลงไปกว่าเดิม อีกหนึ่งปัญหา คือ เรื่องเดลิเวอรีแพลตฟอร์มที่เป็นดาบสองคมของผู้ประกอบการทำให้ต้องแบกรับภาระมากขึ้น แม้ว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ต้องแบ่งรายได้ที่ได้รับกว่า 30% ให้กับแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนที่มากถึงเกือบ 1 ใน 3 ของรายได้ที่ได้รับ


สิ่งที่ต้องการได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ คือ เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อระยะสั้นที่ช่วยให้เงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบทันที เช่น นำโครงการคนละครึ่งมาช่วยเติมเงินลงในระบบเศรษฐกิจ ฯลฯ การบริหารจัดการเชิงนโยบายที่รวดเร็วเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะปานกลางและระยะยาว ส่งเสริมให้บรรยากาศการลงทุนไม่หยุดชะงัก รวมถึง ประสานงานเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มให้ช่วยลดค่าธรรมเนียมลง หรือจัดโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ประกอบการเพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย และลดภาระด้านต้นทุนของธุรกิจลง

นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าภาคธุรกิจต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน แต่ก็เป็นไปตามวัฏจักรของธุรกิจ มีล้มก็มีลุก มีถดถอยก็มีวันเจริญเติบโต ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงไม่ควรท้อถอย แต่ต้องเร่งพัฒนาระบบการบริการจัดการธุรกิจให้สอดรับกับทุกสถานการณ์ รวมถึง นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการธุรกิจทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านเพื่อช่วยลดต้นทุน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจสามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจและนักลงทุนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี แต่ผู้ที่กำลังจะเข้าสู่แวดวงแฟรนไชส์ต้องให้ความใส่ใจในสัญญาแฟรนไชส์เป็นพิเศษ ทำความเข้าใจในรายละเอียดอย่างถ่องแท้ และที่สำคัญ ต้องหมั่นพัฒนาความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์ธุรกิจ และสามารถนำพาธุรกิจให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ

อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับย่านการค้าวัดโพธิ์ ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการค้าปลีก (ขายของที่ระลึก) พบว่า เศรษฐกิจถดถอยเป็นปัญหาหลักเช่นเดียวกัน นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนลดลง แต่ยังดีที่มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปและตะวันออกกลางเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเกี่ยวพันไปถึงสินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์สินค้าไทย ผู้ประกอบการค้าปลีกหน้าวัดโพธิ์ส่วนใหญ่จำหน่ายของที่ระลึก ทำให้ทราบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการสินค้าไทยที่มีคุณภาพดีเพื่อนำไปเป็นของฝากของที่ระลึก ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าด้อยคุณภาพซึ่งส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศแอบเข้ามาปะปนกับสินค้าไทย ทำให้บางครั้งเมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าด้อยคุณภาพนั้นไป แล้วคิดว่าเป็นสินค้าไทย ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้าไทยเสียหายตามไปด้วย

สิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐเร่งดำเนินการ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศในภาพรวม การประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญที่สุด คือ การปราบปรามสินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศให้หมดไป เพื่อป้องกันภาพลักษณ์สินค้าไทยไม่ให้มัวหมองจากการที่สินค้าด้อยคุณภาพแอบมาสวมสิทธิเป็นสินค้าไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์สินค้าไทยในระยะยาว
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้รับฟัง พูดคุยถึงรายละเอียด ปัญหา-อุปสรรคของผู้ประกอบการ รวมทั้ง ความต้องการได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐของทั้ง 2 ธุรกิจแล้ว กรมฯ จะเร่งสรุปปัญหา-อุปสรรค ความต้องการของภาคธุรกิจ พร้อมจัดทำแผนพัฒนาและสนับสนุนธุรกิจแต่ละพื้นที่อย่างครบวงจร โดยเน้นความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ รวมทั้งจะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจนำนวัตกรรมมาใช้เป็นเครื่องมือเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ พัฒนาหลักสูตรการอบรมของกรมฯ ให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและความต้องการของภาคธุรกิจ ซึ่งผลจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ยิ่งมีความเชื่อมั่นว่า ‘SME ไทย’ เป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญ และเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ทั้งนี้ ขอชื่นชมภาคธุรกิจที่มีการประกอบธุรกิจด้วยความแข็งแกร่ง โดยสิ่งที่สัมผัสได้จากผู้ประกอบการ คือ พลังความร่วมมือของผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจและย่านการค้าที่เป็นปัจจัยสำคัญช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน” อธิบดีอรมน กล่าวสรุป
แฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 300,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 15-20 ต่อปี โดยข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน 2568 มีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 545 ราย แบ่งเป็น 6 ประเภทธุรกิจ คือ อาหาร 248 ราย เครื่องดื่ม 106 ราย การศึกษา 68 ราย บริการ 66 ราย ค้าปลีก 33 ราย และความงาม/สปา 24 ราย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรแฟรนไชส์ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5953, e-Mail : franchisedbd@gmail.com หรือ สายด่วน 1570
#SuperDBD #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์
ข่าวเด่น