เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
Special Report : Fed ลดดอกเบี้ยตามคาด 0.25% หนุนบรรยากาศลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง


 

ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด สู่ระดับ 4.00% - 4.25% ต่อปี และคาดว่าจะมีการปรับลดอีก 2 ครั้งในปีนี้ในอัตรา 0.50% ทำให้ ณ สิ้นปี 2568 อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับ 3.50% - 3.75% ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในสหรัฐที่ฟื้นตัวกลับขึ้นมาทันที ส่วนสินทรัพย์เสี่ยงสูงอย่าง Bitcoin ก็มีโอกาสที่จะทะลุระดับราคา 120,000 ดอลลาร์สหรัฐได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ สถานการณ์เงินเฟ้อก็ยังเป็นที่เฝ้าระวังของ Fed อยู่ดี ซึ่งจะยังเป็นตัวชี้วัดการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินและทิศทางการลงทุนของตลาดในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปีนี้
 
วันที่ 18 กันยายน 2568 ตามเวลาประเทศไทย ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ของ Fed ได้มีการเปิดเผยผลการประชุมด้วยมติ 11:1 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.00% - 4.25% ต่อปี เป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาดส่วนใหญ่ ด้วยเหตุผลที่ต้องเข้ามาช่วยพยุงตลาดแรงงานสหรัฐที่กำลังอ่อนแอลง แม้จะยังมีแรงกดดันของทางเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมาจากนโยบายภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ตาม ซึ่งทางเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ได้กล่าวว่า ตลาดแรงงานเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด เนื่องจากอัตราการสร้างงานใหม่ในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มคนผิวดำที่ว่างงานสูงขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องสร้างสมดุลในตลาดแรงงาน เพื่อควบคุมความเสี่ยงที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
 
โดยการที่ลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ถือเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบปี หลังจากคงดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุม 5 ครั้งที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่ผ่อนคลายนโยบายการเงินเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อย่างเช่น ดัชนี Dow Jones ที่ดีดขึ้นทันที 500 จุด (+1%) ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ที่น่าสนใจ คือบรรดาหุ้นขนาดเล็กส่วนใหญ่มีการปรับขึ้นนำหน้าใครเพื่อน เนื่องจากมีความอ่อนไหวต่อทิศทางดอกเบี้ยมากกว่า รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะในดัชนี S&P 500 ที่พุ่งขึ้นถึง 1.36% และหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Intel ก็ทะยานขึ้นถึง 22.77% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งในรอบ 38 ปี (ซึ่งรวมกับข่าวที่ Nvidia ประกาศว่าจะลงทุนมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ในการร่วมพัฒนาชิปสำหรับ Data Center และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล กับ Intel ด้วย)
 
ส่วนสินทรัพย์เสี่ยงสูง อย่าง Bitcoin ก็มีสัญญาณบวกตอบรับจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ครั้งแรกในรอบ 9 เดือนนี้ โดย Techinical Sentiment ของตลาดคริปโตเริ่มกลับมา ทำให้มีโอกาสที่ Bitcoin จะพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับแนวต้านที่ 120,000 ดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง ซึ่งเมื่อผนวกกับตลาดคริปโตในปัจจุบันที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากกระแสเงินทุนได้ไหลเข้ากองทุนของ Bitcoin ก็คาดว่า Bitcoin จะสามารถทะลุทำ All Time High ครั้งใหม่ได้ในเร็ว ๆ นี้
 
ทั้งนี้ การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2569 อาจจะผิดจากความคาดหวังของตลาด จากที่คาดว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในปีหน้า แต่จากรายงานประมาณการภาวะเศรษฐกิจฉบับใหม่ ระบุว่า Fed ประเมินโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า อีก 0.25% ลงสู่ระดับ 3.25% - 3.50% เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐ ยังคงต้องเฝ้าระวังสภาวะเงินเฟ้อ ที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายในอัตรา 2 % และยังต้องมีการพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพราะจากนโยบายการขึ้นภาษีสินค้านำเข้า จะทำให้เงินเฟ้อจากราคาสินค้าจะยังเกิดขึ้นต่อไปตลอดปีนี้ไปจนถึงปีหน้า แต่การที่ Fed เลือกที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ก่อน เป็นการลดเพื่อบริหารความเสี่ยง จากภัยคุกคามทั้งสองที่เกิดขึ้นพร้อมกัน และเป็นในลักษณะของ Stagflation ที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแต่ไม่สัมพันธ์กับการจ้างงานที่ชะลอตัวลง ซึ่งนับเป็นความไม่แน่นอนสูงของเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ทำให้ Fed ต้องบริหารความเสี่ยงเพื่อรักษาสมดุลของการจ้างงานและควบคุมเงินเฟ้อไปพร้อม ๆ กัน โดยจะยังพิจารณาทิศทางดอกเบี้ยตามตัวเลขทางเศรษฐกิจ และจะส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงตามไปด้วยในระยะต่อไป

LastUpdate 21/09/2568 21:28:37 โดย :
19-10-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 19, 2025, 4:47 pm