หุ้นทอง
ทีเอ็มบีธนชาต ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.066 บาทต่อหุ้น


ทีเอ็มบีธนชาต ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.066 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงที่ 60% โดยยังคงเดินหน้าตามแผนบริหารส่วนทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนรวมให้กับผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน  


กรุงเทพฯ 23 กันยายน 2568 -- เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนของปี 2568 ในอัตรา 0.066 บาทต่อหุ้น โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล) ในวันที่ 6 ตุลาคม 2568 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 นี้

 
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ และการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ส่งผลให้ทีทีบีมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีความพร้อมในการรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ พันธกิจสำคัญของทีทีบีในปี 2568 ยังคงเน้นย้ำ “ปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้” ครอบคลุมลูกหนี้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้กลุ่มเปราะบางหรือลูกหนี้ที่มีประวัติดี ด้านพันธกิจสำหรับผู้ถือหุ้น ยังคงเดินหน้าตามแผน “การบริหารส่วนทุน” หรือ Capital management เพื่อสร้างมูลค่าและเพิ่มผลตอบแทนโดยรวม (Total Return) ให้กับผู้ถือหุ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ภายใต้แผนการบริหารส่วนทุนดังกล่าว ทีทีบีประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.066 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ที่ 60% จากผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2568 รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 6.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายในการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงแม้ภาคธุรกิจและภาคธนาคารจะได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวก็ตาม 
 
นอกจากนี้ การที่ธนาคารสามารถปรับเพิ่ม Dividend Payout Ratio ขึ้นจาก 30% - 35% มาอยู่ที่ 60% ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จจากกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจหลังการรวมกิจการ ด้านอัตราผลตอบแทนเงินปันผล หรือ Dividend Yield ก็เพิ่มขึ้นจาก 2% - 3% ในอดีตมาอยู่ที่ 6% - 7% ในปัจจุบันส่งผลให้ทีทีบีเป็นหนึ่งในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินจากปันผลสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของหุ้นกลุ่มธนาคาร

และอีก 2 โครงการที่ดำเนินการได้ตามแผน Capital management ได้แก่ โครงการซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี (2568 - 2570) วงเงินรวม 21,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุน ROE ในระยะยาวแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนในตลาดทุนที่มีต่อราคาหุ้นและมูลค่าของผู้ถือหุ้นได้อีกด้วย และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารเสร็จสิ้นการเข้าซื้อหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นไปตามแผนการสร้างการเติบโตจากภายนอก (Inorganic growth) เพื่อเพิ่มศักยภาพและมูลค่าทางธุรกิจในระยะยาว   

สำหรับช่วงที่เหลือของปี ทีทีบีจะยังคงเน้นย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยเราจะยังคงมุ่งมั่นต่อการดำเนินการตามแผน Capital management และตั้งเป้าหมายในการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงต่อไป รวมทั้งเน้นย้ำการบริหารจัดการโครงการซื้อหุ้นคืนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อหุ้นคืนจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น

#ให้ชีวิตการเงินดีทั้งวันนี้และอนาคต 
#เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น #ttb #MakeREALChange
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ก.ย. 2568 เวลา : 17:29:56
14-10-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 14, 2025, 11:34 am