เอมิเรตส์ สายการบินระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดให้เข้าชมห้องโดยสาร Premium Economy บนเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งให้บริการในเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ–ดูไบที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ล่าสุด การเปิดตัวในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอมิเรตส์ในการเพิ่มตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลายและสะดวกสบายยิ่งขึ้นแก่ผู้โดยสาร พร้อมยกระดับมาตรฐานการบริการในทุกขั้นตอนให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้า–ออกประเทศไทย และผู้โดยสารที่เดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ทั่วโลก
การนำเครื่อง A380 ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่เข้าประจำการในเส้นทางกรุงเทพฯ ทำให้เอมิเรตส์สามารถขยายบริการห้องโดยสาร Premium Economy ไปยังเมืองต่าง ๆ กว่า 70 แห่งทั่วโลก โดยห้องโดยสารใหม่นี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของเครื่องบิน จัดวางในรูปแบบ 2-4-2 จำนวน 56 ที่นั่ง ถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างห้องโดยสารชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจได้อย่างลงตัว
ภายในห้องโดยสาร ได้รับรางวัลการันตีระดับนานาชาติอย่างมากมาย โดดเด่นด้วยเก้าอี้หุ้มเบาะหนังสีครีมที่มีพื้นที่วางขากว้างถึง 40 นิ้ว และสามารถปรับเอนที่นั่งได้ถึง 8 นิ้ว พร้อมเบาะพักขาที่นุ่มสบาย และพนักพิงศีรษะที่สามารถปรับระดับได้ตามความต้องการ แต่ละที่นั่งยังติดตั้งโต๊ะไม้แบบพับเก็บเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานหรือรับประทานอาหารได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้เอมิเรตส์ได้ยกระดับระบบความบันเทิงและบริการบนเที่ยวบินด้วยการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น หน้าจอความละเอียดสูงขนาด 13.3 นิ้วที่รองรับการเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธ พร้อมบริการ Wi-Fi ความเร็วสูงในเส้นทางที่กำหนด เพื่อการเชื่อมต่อที่ต่อเนื่องไม่สะดุดตลอดการเดินทาง อีกทั้งผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับเมนูอาหารประจำภูมิภาคที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟมาบนชุดภาชนะกระเบื้องจาก Royal Doulton พร้อมรายการเครื่องดื่มที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึง ไวน์วินเทจชั้นเลิศที่เสิร์ฟเช่นเดียวกับห้องโดยสารชั้นธุรกิจ
ปัจจุบันกรุงเทพฯเป็นหนึ่งในเครือข่ายเส้นทางภายใต้โครงการปรับปรุงตกแต่งภายในเครื่องบินของสายการบินเอมิเรตส์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมการบิน ครอบคลุมทั้งเครื่องบินรุ่น A380 และ Boeing 777 รวม 219 ลำ เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสารให้ดียิ่งขึ้น โดยภายในสิ้นปีเอมิเรตส์มีแผนจะให้บริการที่นั่งชั้น Premium Economy อีกเกือบ 2 ล้านที่นั่ง และจะขยายเป็นกว่า 4 ล้านที่นั่งภายในปี 2569 ผู้โดยสารสามารถสัมผัสประสบการณ์ Premium Economy แบบไร้รอยต่อตั้งแต่ต้นทางถึงจุดหมายปลายทาง ด้วยการเชื่อมต่อผ่านดูไบไปยังเส้นทางยอดนิยมต่าง ๆ เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน หรือ เซาเปาลู
ผู้โดยสารที่จองตั๋วเครื่องบินในชั้น Premium Economy จะได้รับสิทธิพิเศษในการเช็คอินและลงจากเครื่องก่อน พร้อมสิทธิ์โหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องสูงสุด 35 กิโลกรัม และสามารถนำสัมภาระขึ้นเครื่องเพิ่มเติมได้มากถึง 10 กิโลกรัม ลูกค้าสามารถจองเที่ยวบินที่ให้บริการด้วยเครื่องบิน A380 โฉมใหม่ พร้อมชั้นโดยสาร Premium Economy ผ่านทางเว็บไซต์ emirates.com หรือ ผ่านบริษัทตัวแทน
เอมิเรตส์ ประเทศไทย - ข้อมูลสำคัญ
สายการบินเปิดให้บริการในประเทศไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2533 โดยปีนี้เป็นวาระครบรอบ 35 ปีของสายการบินเอมิเรตส์ในประเทศไทย
สายการบินให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ และดูไบ วันละ 5 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบิน Airbus A380 จำนวน 4 เที่ยวบิน และให้บริการด้วยเครื่องบิน Boeing 777-300ER จำนวน 1 เที่ยวบิน
สายการบินยังให้บริการเที่ยวบินระหว่างภูเก็ตและดูไบ วันละ 2 เที่ยวบิน เที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และฮ่องกง วันละ 1 เที่ยวบิน เที่ยวบินสู่ดานังผ่านกรุงเทพฯ สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน และ เที่ยวบินสู่เสียมราฐ (เสียมเรียบ) สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน รวมถึงมีเที่ยวบินที่เชื่อมต่อประเทศไทยกับกว่า 140 จุดหมายปลายทางใน 6 ทวีป
สายการบินมีข้อตกลงการบินร่วม (codeshare agreements) กับทั้งการบินไทยและบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในภูมิภาคได้กว่า 70 แห่ง เช่น เชียงใหม่ เกาะสมุย เสียมราฐ ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์
ในปี พ.ศ. 2567 สายการบินได้ลงนามข้อตกลงเชิงยุทธศาสตร์กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวขาเข้าผ่านแคมเปญการตลาดและการส่งเสริมการขายร่วมกัน
ในเดือนมกราคม 2568 สายการบินเอมิเรตส์ได้เปิดห้องพักรับรองพิเศษที่สนามบินที่ใหญ่ที่สุดนอกเมืองดูไบ ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ในเดือนพฤษภาคม 2568 สายการบินเปิดตัว Emirates World Store อย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ ทีเกสร วิลเลจ เพื่อยกระดับประสบการณ์การค้าปลีกของลูกค้า
ข่าวเด่น