การค้า-อุตสาหกรรม
กรมสรรพสามิตขานรับมติ ครม. ขยายเวลาลดภาษีสถานบริการอีก 1 ปี พร้อมบูรณาการความร่วมมือส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี


กรมสรรพสามิตขานรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ภายใต้นโยบาย “Quick Big Win” ของรัฐบาล ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสถานบริการออกไปอีก 1 ปี เพื่อบรรเทาภาระผู้ประกอบการ สนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจบันเทิงและการท่องเที่ยว พร้อมกำชับหน่วยงานในสังกัดมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีอย่างยั่งยืน

 
ดร.พรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ควบคู่กับการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการในระยะยาว โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างทั่วถึง สอดคล้องกับนโยบาย “Quick Big Win” ของรัฐบาล ซึ่งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ประกอบด้วย 5 มาตรการย่อย ได้แก่

1. มาตรการภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว
2. มาตรการภาษีสำหรับนิติบุคคลเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ
3. มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาของภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (Front Load)
4. มาตรการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ
5. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก

อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกรมสรรพสามิต คือ มาตรการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ โดยขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษี สำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ ประเภทที่ 17.01 เช่น ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ และค็อกเทลเลานจ์ ตามมูลค่าจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 5 ออกไปอีก 1 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดภาระต้นทุนของสถานบริการ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และปรับลดราคาค่าบริการลง เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวให้ใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว การจ้างงาน และสร้างการหมุนเวียนรายได้ภายในประเทศ อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ได้สั่งการ ให้สำนักงานสรรพสามิตภาค สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาทั่วประเทศมีความพร้อมในการให้คำแนะนำและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี และชำระภาษีด้วยความถูกต้อง เพื่อที่จะได้กระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้สอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรีและสอดรับตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวรภัค ธันยาวงษ์) และปลัดกระทรวงการคลัง (นายลวรณ แสงสนิท) ในการนี้ ผู้ประกอบการสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมสรรพสามิต 1713 หรือที่สำนักงานสรรพสามิตทั่วประเทศ

อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมสรรพสามิตมุ่งมั่นดำเนินนโยบายภาษี  เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการช่วยลดภาระผู้ประกอบการและส่งเสริมให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ควบคู่ไปกับการบูรณาการความร่วมมือกับกรมการปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คำแนะนำและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมาจดทะเบียนสถานประกอบการเพื่อขยายฐานภาษีสรรพสามิต รวมทั้งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ต.ค. 2568 เวลา : 12:02:20
22-10-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 22, 2025, 10:15 pm