(+) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบ คงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 24 ต.ค.68 ปรับลดลง 6.86 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 416 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงเพียง 0.21 ล้านบาร์เรล สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการใช้น้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง
(+) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เผยการเจรจากับประธานาธิบดี สี จิ้น ผิงที่จะเกิดขึ้น ณ เมืองปูซานของเกาหลีใต้ในวันนี้มีแนวโน้มไปในทางที่ดีโดยคาดหวังที่จะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อแลกกับการควบคุมการส่งออกสารเคมีตั้งต้นของเฟนทานิลของปักกิ่ง โดยสัญญาณเชิงบวกนี้อาจช่วยคลายความกังวลต่อเศรษฐกิจที่อ่อนแอเนื่องจากภาษีศุลกากรและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
(-/+) อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย.นี้ โดยคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน ธ.ค. 68 อีก 137,000 บาร์เรลต่อวัน
(-/+) นักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ถึงแม้ว่าจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด แต่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนธ.ค. 68 นั้น ยังคงไม่แน่นอนและมีแนวโน้มที่จะระมัดระวังมากขึ้น
ข่าวเด่น