การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
"นายกฯ อนุทิน" ห่วงสถานการณ์อุทกภัยและผลกระทบพายุคัลแมกี กำชับหน่วยงานเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชน


"รมต.ภราดร" เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือด่วน เผยนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงประชาชนที่ประสบอุทกภัย และอิทธิพลพายุคัลแมกี หลังคาดการณ์จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กำชับเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินชดเชยเยียวยาประชาชน พร้อมบูรณาการปรับแผนการบริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

 
วันนี้ (4 พ.ย. 68) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำ โดยมี นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการ สทนช. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเปิดเผยว่า จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อช่วงเช้า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ แม้จะอยู่ในช่วงเดือน พ.ย. ที่เป็นฤดูฝนของภาคใต้ แต่ยังคงต้องติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ “พายุคัลแมกี” ที่ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก

 
 
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมรับมือกับสถานการณ์พายุคัลแมกีที่กำลังจะเข้ามา ในช่วงวันที่ 6-8 พ.ย.นี้ ซึ่งจากคาดการณ์จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณพื้นที่ภาคอีสานแต่จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลยังมีพื้นที่เพียงพอในการรับปริมาณน้ำได้อีก หลังจากนั้นพายุจะเคลื่อนตัวไปสู่ภาคเหนือตอนล่าง บริเวณ จ.สุโขทัย กำแพงเพชร และนครสวรรค์ ที่อาจส่งผลให้แม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน และเจ้าพระยา ที่ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยยังคงน่าเป็นห่วงจากอิทธิพลของพายุ 6 ลูกที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อน มีปริมาณมากเกือบ 100% ในหลายๆเขื่อน  โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่  ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งอยู่ในแนวพื้นที่รับฝนจากพายุคัลแมกี จึงทำให้ทุกหน่วยงานต้องวางแผนพร่องระบายน้ำจากแต่ละเขื่อนอย่างรอบคอบรัดกุม เพื่อรักษาความปลอดภัยตัวเขื่อนและต้องไม่ส่งผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ โดยในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย. 68) กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยจะผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา และหน่วงเก็บกักน้ำในทุ่งรับน้ำที่พอจะมีศักยภาพรับน้ำเพิ่มเติม โดยไม่ให้ซ้ำเติมผลกระทบกับประชาชน ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำถึง 2,700 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทานจะประสาน สทนช. เพื่อทำหนังสือเสนอ กนช. พิจารณาต่อไป

 
ในส่วนการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ได้กำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานผู้ว่าราชการจังหวัด ในการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 68 โดยเร็ว นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้ที่ประชุมหาแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ท่วมขังเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน และที่อยู่ในพื้นที่ท่วมขังเกินกว่า 60 วัน และหลังจากพายุคัลแมกีผ่านไปแล้ว จะต้องเตรียมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 พ.ย. 2568 เวลา : 20:45:26
06-11-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 6, 2025, 6:23 am