(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังรายงานจากกลุ่มโอเปก (OPEC) เผยว่าอุปทานน้ำมันดิบอาจปรับเพิ่มขึ้นและเพียงพอต่ออุปสงค์น้ำมันดิบในปี 2569 จากการเพิ่มกำลังการผลิตจากของทั้งกลุ่ม OPEC+ และ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPECโดยคาดว่าจะมีอุปทานส่วนเกินเล็กน้อยที่ 20,000 บาร์เรลต่อวัน หากกลุ่ม OPECยังคงอัตราการผลิตที่ระดับเดียวกันกับเดือน ต.ค. 68 ซึ่งสวนทางจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่มองว่าตลาดจะเผชิญภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว
(+) อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตลาดอาจได้รับแรงหนุนจากการที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่10 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนน 60 ต่อ 40 เสียง หลังต้องหยุดชะงักยาวนานกว่า 40 วัน ซึ่งหากรัฐบาลกลางสามารถกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งอาจช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจรวมถึงความต้องการใช้น้ำมัน
(+) สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ วันที่ 7 พ.ย. 68 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล
ข่าวเด่น