
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) โดยนางนุจรี ภักดีเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารกลุ่มงานธุรกิจรายย่อย เข้าร่วมเสวนาพิเศษหัวข้อ “ไทย–ซาอุดีอาระเบีย: จากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ – เส้นทางการค้า การลงทุน และ Vision 2030” (Thailand–Saudi Arabia: From Vision to Action – Pathways for Trade, Investment and Vision 2030) ในงาน TME FORUM: THAILAND–SAUDI BRIDGE “VISION 2030 และโอกาสธุรกิจไทยสู่ซาอุดีอาระเบีย” ที่จัดโดย สถาบัน TME Institute ซึ่งมี Mr. Mansour Al-Ajmi ผู้อำนวยการหอการค้าริยาด (Riyadh Chamber) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี และมี ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษาจุฬาลงกรณ์และผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและวิจัย สถาบัน TME Institute เป็นประธานจัดงาน พร้อมด้วย นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด และประธานหลักสูตร TME กิตติมศักดิ์ และดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย นักวิชาการอิสระ ร่วมปาฐกถาพิเศษ ณ โรงแรมอัล-มีรอซ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568

เวทีดังกล่าวนับเป็นแพลตฟอร์มเชิงยุทธศาสตร์ที่รวมผู้กำหนดนโยบาย นักเศรษฐศาสตร์ ผู้บริหารภาคธุรกิจ และสถาบันการเงินจากทั้งสองประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโอกาสการลงทุน โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของซาอุดีอาระเบีย และบทบาทของไทยในห่วงโซ่มูลค่าที่เชื่อมโยงสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง
ในช่วงเสวนาพิเศษหัวข้อ “Thailand–Saudi Arabia: From Vision to Action – Pathways for Trade, Investment, and Vision 2030” นางนุจรีได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้บริหารชั้นนำ อาทิ นางสาวเนาวรัตน์ ธรรมสวยดี CEO Bitkub Ventures นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ CEO Eka Global และนายธีรยุทธ สุขสุด กรรมการผู้จัดการ SCG International Arabia (LLC) โดยมี นายรวี ตะวันธรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารเชิงกลยุทธ์และความสัมพันธ์องค์กรในประเทศเป็นผู้ดำเนินรายการ

นางนุจรีกล่าวว่า อุตสาหกรรมการเงินอิสลามเป็นกลไกสำคัญในการเปิดประตูความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย–ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะเป็นสะพานที่เชื่อมโยงทั้งด้านการค้า การลงทุน ระบบการชำระเงิน และการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดตะวันออกกลาง พร้อมระบุว่า “นี่คือจังหวะที่ถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยที่จะยกระดับความร่วมมือในการทำธุรกิจกับซาอุดีอาระเบีย และระบบการเงินอิสลามคือกลไกสำคัญที่สุดในการเปิดประตูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ” ซึ่งสะท้อนมุมมองที่สำคัญของการยกระดับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ในช่วงเวลาที่ Vision 2030 เฟส 3 ก้าวหน้าเกิน 85% แล้ว และซาอุดีอาระเบียกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ของโลก ทั้งนี้จากข้อมูลรายงานประจำปี Vision 2030 และ Financial Sector Development Program (FSDP) ปี 2024 ซาอุดีอาระเบียกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดย Non-Oil GDP ขยับเข้าใกล้ 60% ของเศรษฐกิจโดยรวม มีนักท่องเที่ยวเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100 ล้านคนต่อปีจนต้องขยับเป้าหมายใหม่เป็น 150 ล้านคนต่อปี การเข้าถึงบริการดิจิทัลและสัดส่วน e-Payment สูงถึง 79% การเติบโตของสินทรัพย์ภาคการธนาคารโตเกินเป้าปี 2025 รวมทั้ง Moody’s และ S&P ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของซาอุดีอาระเบียจากผลของการปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม และการบริหารการคลัง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดซาอุดีอาระเบียเปิดกว้างที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และไทยมีจุดแข็งที่สอดคล้องกันอย่างลงตัว ทั้ง อาหารฮาลาล การแพทย์ การท่องเที่ยว และฮาลาลซัพพลายเชน นางนุจรียังกล่าวต่อว่า “ไอแบงก์ในบทบาท “Islamic Financial Gateway” ของไทย พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยด้วยโซลูชันการเงิน เพื่อการค้าระหว่างประเทศที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ์ได้อย่างครบวงจร ทั้งการค้า การลงทุน รวมถึงบริการโอนเงินบาทเป็นรียัล (SAR) ได้โดยตรง โดยมี Al Rajhi Bank ธนาคารอิสลามอันดับ 1 ของโลกทำหน้าที่เป็นธนาคารตัวกลาง สามารถทำธุรกรรมได้ทั้งเงินโอนขาเข้าและขาออก ปลายทางรับเงิน SAR ได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนหลายต่อกรณีที่ทำรายการผ่านสกุลเงินกลางหรือ Cross Currency ซึ่งโอนได้หลากหลายวัตถุประสงค์ทั้งการโอนเงินค่าสินค้า ค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายในการประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม (ฮัจย์ อุมเราะห์)”

“ถ้าเป้าหมายทางธุรกิจของคุณคือซาอุดีอาระเบีย ibank คือ Gateway สำคัญที่มุ่งสร้างเส้นทางการค้า การลงทุน ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นระบบ ภายใต้กรอบการทำงานที่เชื่อมโยงผ่านสะพาน 4 ด้านหรือ 4 Bridges ทั้ง Knowledge Bridge เชื่อมความรู้ความเข้าใจ Islamic Finance Bridge เชื่อมการเงินที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม Market Entry Bridge เชื่อมตลาด และ Capital Bridge เชื่อมทุน” นางนุจรี กล่าวทิ้งท้าย
การประชุมครั้งนี้ยังเปิดมุมมองสำคัญเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยุค Vision 2030 ที่มุ่งยกระดับซาอุดีอาระเบียสู่เศรษฐกิจฐานความหลากหลาย พร้อมสำรวจศักยภาพของไทยในฐานะคู่ความร่วมมือหลักด้านการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย
เวที TME Forum นับเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญที่ช่วยวางรากฐานความร่วมมือไทย–ซาอุดีอาระเบียในระยะยาว ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้ไอแบงก์แสดงศักยภาพของสถาบันการเงินอิสลามไทยในการสนับสนุนผู้ประกอบการ และขยายบทบาทในตลาดตะวันออกกลางอย่างเป็นรูปธรรม
สนใจสินเชื่อต่างประเทศ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ไอแบงก์ ทุกสาขา หรือ ibank Contact Center 1302 หรือ แชตทาง Messenger : Islamic Bank of Thailand - ibank (@ibank.th) และ Line : iBank 4 all (@ibank)
ข่าวเด่น