Bitcoin ทะลุจุดสูงสุดใหม่ หรือ All Time High อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ “โดนัล ทรัมป์” ได้ชนะการเลือกตั้งและก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาของทรัมป์นั้น นับว่าส่งผลดีต่อตลาดคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมาก เนื่องจากนโยบายทางการเมืองต่อจากนี้อาจเปลี่ยนกฎระเบียบตลาดคริปโตครั้งยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ภายหลังผลการเลือกตั้งที่ได้ประกาศชัยชนะของทรัมป์ออกสู่สังคมทั่วโลกในวันที่ 5 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตได้มีมูลค่าเติบโตยกแผง โดยเฉพาะเหรียญหลักของตลาดอย่าง Bitcoin ที่ทุบสถิติแนวต้านเดิมที่ระดับ 72,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ที่ 74,000, 77,000 และล่าสุดในวันที่ 10 พ.ย. ได้พุ่งทะลุสู่จุดสูงสุดตลอดกาลที่ 79,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นที่เรียบร้อย โดยสาเหตุหลักที่การกลับมาของทรัมป์ ได้สร้างแรงบวกอย่างยิ่งยวดให้กับตลาดของคริปโตเป็นเพราะ ทรัมป์ให้การสนับสนุนใน Bitcoin และมีนโยบายทางการเมืองที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของโลกการเงินดิจิทัลโดยตรง จากที่ตัวนโยบายของทรัมป์นั้น มุ่งเน้นให้เศรษฐกิจในประเทศเติบโตเป็นหลัก โดยจะทำทุกวิถีทางเพื่อดึงกระแสเงินกลับเข้ามาในระบบเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด และอัดฉีดให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและคงอำนาจเอาไว้ดั่งเดิม ทั้งการสนับสนุนธุรกิจในประเทศ การตั้งกำแพงภาษีนำเข้า และการวางแผนจัดตั้ง ทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติ ที่รัฐบาลจะมีการเก็บสะสม Bitcoin เอาไว้ ทั้งจากที่ลงทุนและที่รัฐบาลยึดเอาไว้ โดยนโยบายนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และเป็นตัวกระตุ้นการยอมรับ Bitcoin เป็นวงกว้างทั่วโลกอีกด้วย
จากรูปภาพสื่อโซเชียลของทรัมป์ด้านบน จะเห็นได้ว่าเขามีการหาเสียงจากเรื่องของ Bitcoin ตลอดมา สะท้อนถึงท่าทีของการสนับสนุนตลาดคริปโตอย่างเต็มที่หากเขาได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ดังนั้นชัยชนะที่ทรัมป์ได้รับในครั้งนี้ ทำให้ตลาดสามารถคาดการณ์ได้ว่านโยบายที่เขาได้กล่าวออกมาก่อนหน้านี้กำลังจะเกิดขึ้นจริงในไม่ช้า ทั้งการพยายามดึงดูดนักขุด Bitcoin เข้าสู่ประเทศ ให้ธุรกิจการขุด Bitcoin ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ (ตรงตามนโยบาย Made in the USA) การให้ความสำคัญกับเรื่องเสรีภาพทางการเงิน ที่ทรัมป์ต่อต้านสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือ CBDC ศัตรูตัวฉกาจของ Bitcoin เนื่องจากมองว่า CBDC มีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวและโดนควบคุมโดยรัฐบาล นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเคยให้คำมั่นว่าจะปลด Gary Gensler ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หรือ SEC คนปัจจุบันออกจากตำแหน่งหากเขาได้เป็นประธานาธิบดี ซึ่งถือเป็นคำมั่นที่ซื้อใจเหล่าผู้ลงทุนในคริปโตอย่างมาก เพราะประธาน SEC คนปัจจุบัน มีทัศนคติเชิงลบกับคริปโต และบังคับใช้กฎเกณฑ์กับโปรเจกต์ คริปโตหลายแห่ง ซึ่งสร้างความลำบากต่อการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลตลอดมา
ดังนั้นการกลับมาของประธานาธิบดีทรัมป์ จึงถือได้ว่าเป็นการเปิดยุคทองของคริปโต ที่จะมีนโยบายที่ชัดเจนเข้ามาสนับสนุนความแข็งแกร่งให้กับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ผนวกเข้ากับการทำนายราคา Bitcoin ก่อนหน้านี้ของผู้ร่วมก่อตั้ง Glassnode บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชนชื่อดัง ที่ได้คาดการณ์เมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2567 ว่า หากราคา Bitcoin สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ราคา 72,000-74,000 ดอลลาร์สหรัฐไปได้ มีโอกาสที่จะกระตุ้นให้เกิดการ Short Squeeze ส่งผลให้ Bitcoin พุ่งไปสู่จุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งในตอนนี้ ระดับ ATH ปัจจุบัน ก็อยู่ที่ 79,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นที่เรียบร้อย ต่อจากนี้ หากทรัมป์ได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนม.ค.2568 ก็อาจเห็น Bitcoin แตะระดับราคา 100,000 ดอลลาร์สหรัฐก็เป็นได้
ข่าวเด่น