ตอกย้ำจุดยืนอย่างแข็งแกร่ง สำหรับ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนับสนุนคริปโตตลอดมา โดยล่าสุดได้นำพาวงการการเงินส่วนบุคคลของสหรัฐไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่เปิดโอกาสให้ชาวอเมริกันวางแผนเกษียณผ่านกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น คริปโตเคอร์เรนซีได้ ขณะที่การเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คนใหม่ของทรัมป์ อาจนำพานโยบายการเงินของสหรัฐไปยังทิศทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้ระดับราคาของ Bitcoin ดีดตัวขึ้นมาอีกครั้งใกล้สถิติ All Time High
ราคาของ Bitcoin ในช่วงอาทิตย์นี้ได้ดีดตัวขึ้นมาสูงสุดแตะระดับ 122,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่วงการคริปโตเคอร์เรนซี นำโดย Bitcoin กำลังได้รับการยอมรับในระดับสถาบันทั่วโลก สะท้อนจากจุดยืนของทรัมป์ ที่ล่าสุดในวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ลงนามใน Executive Order หรือคำสั่งบริหารว่าด้วยเรื่องการเพิ่มสินทรัพย์ทางเลือก ที่เปิดทางให้แผนเกษียณของชาวอเมริกันผ่านบัญชี 401(k) ซึ่งสามารถนำสินทรัพย์ทางเลือกรวมถึงคริปโตเข้ามาลงทุนในแผนเกษียณดังกล่าวได้ กล่าวคือทรัมป์ได้เปิดช่องให้คริปโต เข้ามาสู่ Main Stream ของวงการการเงิน ที่ผู้คนชาวอเมริกันสามารถกระจายการลงทุนไปยังคริปโต เพื่อเพิ่มโอกาสผลตอบแทนในระยะยาว จากเดิมที่คริปโตนั้นเปิดให้ลงทุนเฉพาะนักลงทุนกลุ่มใหญ่หรือสถาบันเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้าถึงการลงทุนในคริปโตเพิ่มมากขึ้น จากสถานะเดิมที่อยู่ในกลุ่ม Niche เฉพาะ ที่คนทั่วไปส่วนใหญ่ยังมองว่าคริปโตนั้นเป็นเรื่องไกลตัวและเกิดความกลัวที่จะเข้าไปลงทุน เรียกได้ว่าทรัมป์กำลังปรับภาพลักษณ์คริปโต ให้ Friendly มากขึ้น จากการที่เขาใช้อำนาจทางการเมืองดึงคริปโตเข้าสู่ระบบการเงินหลัก อย่างกองทุนเกษียณ 401(k) ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 90 ล้านคนทั่วประเทศ และมีมูลค่ากว่า 12–12.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และตั้งแต่ต้นปี 2025 ทรัมป์ก็มีแนวนโยบายสนับสนุนคริปโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การออก EO เรื่อง Digital Financial Technology ,ยกเลิกแนวทาง CBDC, การจัดตั้ง Strategic Bitcoin Reserve หรือการผลักดันให้ กองทุนของรัฐถือ Bitcoin และแต่งตั้ง Crypto Czar ในทำเนียบขาวเพื่อเป็นผู้นำในการกำหนดนโยบายในด้านปัญญาประดิษฐ์และสกุลเงินดิจิทัลโดยเฉพาะในช่วงก่อนหน้านี้
ซึ่งในระยะต่อไปที่ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed จะสิ้นสุดวาระในเดือนพ.ค.ปี 2026 นั้น ผู้ที่ทรัมป์จะเสนอชื่อให้มาดำรงตำแหน่งเป็นประธาน Fed คนใหม่ ตลาดก็คาดว่าจะเป็นผู้ที่ดำเนินแนวทางตามความต้องการหรือเจตจำนงของทรัมป์ที่ผ่อนคลายนโยบายการเงิน และกรุยทางให้คริปโตต่อไป ดังนั้นตลาดคริปโตในตอนนี้จึงอยู่ในสถานะของขาขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งระดับราคา Bitcoin ที่สูงขึ้นมา อีกทั้ง Ethereum เหรียญคริปโตอันดับ 2 ตามมูลค่าตลาด ตอนนี้ก็ขยับแตะระดับสูงสุดที่ระดับ 4,600 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 190% จากระดับต่ำสุดในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากหลายบริษัทเริ่มบรรจุ Ethereum ไว้ในงบดุล สะท้อนจากที่ตอนนี้มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน Ethereum ETF ของ BlackRock พุ่งทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของตลาดคริปโตเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นยังเคลื่อนไหวใกล้จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย โดยนักลงทุนกำลังจับตาการประชุม Fed ในเดือนก.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรก เป็นแรงหนุนให้สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะคริปโตก้าวเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ที่จะผลักดันราคาทำ All Time High ใหม่ ในอนาคตอันใกล้นี้
ข่าวเด่น