เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
วิจัยกรุงศรีวิเคราะห์ "ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดยังสร้างความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตของโลก แม้การขยายตัวของภาคบริการช่วยบรรเทาความวิตกภาวะ Hard landing"


 
สหรัฐ
 
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมลงนามข้อตกลงขยายเพดานหนี้สัปดาห์นี้ ขณะที่ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาผสมผสาน ในเดือนเมษายน ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เพิ่มขึ้นสู่ 10.1 ล้านตำแหน่ง สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ 9.37 ล้านตำแหน่ง ขณะที่ในเดือนพฤษภาคมตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 339,000 ตำแหน่ง แต่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ 3.7% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงสู่ 4.3% อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ ISM ปรับลงสู่ 46.9 สะท้อนภาวะหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7

สมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ก่อนส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไปเพื่อปิดความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้วันที่ 5 มิถุนายนนี้ ในส่วนของ ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างผสมผสาน โดยดัชนีภาคการผลิตยังคงหดตัวและอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งก่อนในปี 2544 2552 รวมถึง 2563 (ต่ำกว่า 45) ขณะที่ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตร ยังคงสะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอยรุนแรง (recession) อย่างไรก็ตาม ภายใต้ค่าจ้างที่ชะลอลงและอัตราการว่างงานที่เริ่มเพิ่มขึ้นวิจัยกรุงศรีประเมินว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมิถุนายนเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเริ่มเป็นบวก ลดความเสี่ยงในภาคธนาคารและป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงแรงในระยะข้างหน้า
 


ยูโรโซน
 
เงินเฟ้อพื้นฐานของยูโรโซนที่ปรับลงช้า คาดหนุน ECB เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ ในเดือนเมษายน อัตราการเติบโตของสินเชื่อธนาคารที่ให้แก่ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนในยูโรโซนชะลอลงสู่ 4.6% และ 2.5% YoY ตามลำดับ ขณะที่การขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ (M3) ชะลอลงสู่ 1.9% ลดลงมากกว่าตลาดคาดที่ 2.1% ส่วนในเดือนพฤษภาคม ดัชนีภาคการผลิตยังคงหดตัวที่ 44.8 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงสู่ 6.1% YoY
 
 
ตัวเลขเศรษฐกิจของยูโรโซนในสัปดาห์ที่แล้วส่วนใหญ่สะท้อนภาพรวมในเชิงลบ โดยดัชนีภาคการผลิตยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ขณะที่การให้สินเชื่อของธนาคารชะลอลงต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ส่วนปริมาณเงินในระบบ (M3) ขยายตัวช้าสุดในรอบ 9 ปี เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วสุดเป็นประวัติการณ์ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อเทียบรายปี แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของยูโรโซนชะลอลงมากกว่าคาดในเดือนพฤษภาคม (6.1% vsตลาดคาด 6.3%) แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงทรงตัวสูงที่ระดับ 5.3% อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ ECB ยังคงเลือกที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อ โดยวิจัยกรุงศรีประเมินว่า ECB จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ออีกอย่างน้อยสองครั้ง (ครั้งละ 0.25%) เพื่อให้บรรลุเสถียรภาพด้านราคาและอัตราเงินเฟ้อในระยะกลางที่ประมาณ 2%

 
จีน
การฟื้นตัวตามวัฏจักรยังหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจจีนนำโดยภาคบริการ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่และรายเล็กฟื้นตัวแตกต่าง ในเดือนพฤษภาคม สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนซึ่งสำรวจผู้ประกอบการขนาดใหญ่ พบว่าดัชนี PMI ภาคบริการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 แม้จะชะลอลงสู่ 54.5 จาก 56.4 ในเดือนเมษายน แต่ยังคงสูงกว่าระดับ 50 และสูงกว่าตัวเลขในปีที่ผ่านมา ส่วนดัชนี PMI ภาคอุตสาหกรรมลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ที่ 48.8 จาก 49.2 และหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2  สำหรับการสำรวจผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กโดยภาคเอกชนหรือ Caixin พบว่า ดัชนี PMI ภาคอุตสาหกรรมพลิกกลับมาขยายตัวในเดือนพฤษภาคม โดยเพิ่มขึ้นสู่ 50.9 จาก 49.5 ดัชนีย่อยด้านผลผลิตเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 11 เดือน และด้านคำสั่งซื้อขยายตัวมากสุดในรอบ 2 ปี แต่ด้านความเชื่อมั่นลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

วิจัยกรุงศรีประเมินว่าการฟื้นตัวตามวัฏจักร (Cyclical Recovery) ยังหนุนให้เศรษฐกิจจีนเติบโตสูงราว 5-6% ในปีนี้ สะท้อนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคบริการ ผนวกกับการกลับมาขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมรายกลางและรายเล็ก นอกจากนี้ ค่าเฉลี่ยของชั่วโมงการทำงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน และอัตราการว่างงานในเขตเมืองลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนที่ 5.2% ในเดือนเมษายน ซึ่งดีกว่าเป้าหมายของทางการที่ 5.5% ทั้งนี้ แม้การฟื้นตัวตามวัฏจักรจะหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ แต่แรงส่งอาจถูกจำกัดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และปัจจัยเชิงโครงสร้างของจีน เช่น ความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ และปัญหาโครงสร้างประชากร เป็นต้น
 

 
เศรษฐกิจไทย

กิจกรรมในภาคบริการช่วยหนุนเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่กนง.อาจหยุดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนสิงหาคมท่ามกลางการชะลอลงของเงินเฟ้อและการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง

กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี ชี้เศรษฐกิจอาจเติบโตดีกว่าคาด ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานยังสูงเมื่อเทียบกับอดีต การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 31 พฤษภาคม มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.00% โดยประเมินเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ปัจจัยหนุนจากภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวส่งผลบวกต่อการจ้างงาน และเป็นแรงส่งต่อเนื่องไปยังการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงยังคงประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าขยายตัวที่ 3.6% และ 3.8% ตามลำดับ ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มทยอยปรับลดลงกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายและคาดว่าจะอยู่ที่ 2.5% ในปี 2566 (เดิมคาด 2.9%) ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ 2.0% (เดิมคาด 2.4%) 

แม้ล่าสุดกนง.มีการปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลงก็ตาม แต่ยังคงแสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงเมื่อเทียบกับอดีต รวมถึงชี้ว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวสูงกว่าที่คาดไว้ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากนโยบายเศรษกิจของรัฐบาลชุดใหม่ในระยะข้างหน้า ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรีประเมินว่ายังมีสาเหตุสำคัญที่จะสนับสนุนให้กนง.อาจยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ เนื่องจาก (i) เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 และ 3 มีแนวโน้มทรงตัว โดยคาดว่าอาจเติบโตต่ำกว่า 3% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 3.7% (ii) ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล และแนวทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจนในช่วงการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง และ (iii) อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มลดลงอยู่ในกรอบเป้าหมายในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจต่ำกว่า 1.5% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทั้งปีต่ำกว่าที่ ธปท. คาดไว้ที่ 2.0% นอกจากนี้ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงจะกลับมาเป็นบวกได้นับจากนี้  ดังนั้น ในการประชุมกนง.ครั้งหน้าวันที่ 2 สิงหาคม วิจัยกรุงศรีคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี ที่ 2.0% อย่างไรก็ตาม ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาดและสถานการณ์การเมืองมีพัฒนาการไปในทางบวกมากขึ้น
 
 
ภาคท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในประเทศหนุนเศรษฐกิจเดือนเมษายนฟื้นตัวต่อเนื่อง วิจัยกรุงศรีคาดเศรษฐกิจไตรมาสสองเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาสแรก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในทิศทางฟื้นตัวจากกิจกรรมในภาคบริการที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตทั้งนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลดีต่อการบริโภคภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม ภาคส่งออกยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 (-4.9% YoY) ตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ชะลอลง สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง (-8.1 %) และเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่อ่อนแอในหมวดการลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์

หลังจากที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 และเติบโตได้ 2.7% ขณะที่เครื่องชี้เดือนเมษายนสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยวิจัยกรุงศรีคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้จะขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของภาคท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และการจ้างงาน แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีที่ 2.0% และภาคส่งออกยังมีแนวโน้มเผชิญกับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สำหรับทั้งปี 2566 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตที่ 3.3% โดยยังต้องติดตามการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองและทิศทางนโยบายเศรษฐกิจในระยะถัดไป
 

LastUpdate 07/06/2566 12:51:40 โดย : Admin
31-10-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ข่าวดี!!! พรุ่งนี้ราคาน้ำมันลด เบนซิน ลด 40 สต. แก๊สโซฮอล์ ลด 50 สต./ลิตร

2. ตลาดหุ้นปิด (30 ต.ค.67) ลบ 3.96 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,447.20 จุด

3. ประกาศ กปน.: 5 พ.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน

4. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 ต.ค.67) ลบ 0.49 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,450.67 จุด

5. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำตลาดโลกยังคงอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวรับที่ระดับ 2,760 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,800 เหรียญ

6. ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ 60% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 30% ภาคเหนือ-ภาคอีสาน 10%

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.55-33.80 บาท/ดอลลาร์

8. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (29 ต.ค.67) ร่วง 154.52 จุด เหตุบอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด นักลงทุนจับตาผลประกอบการอัลฟาเบท

9. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (29 ต.ค.67) พุ่ง 25.20 เหรียญ นักลงทุนแห่ซื้อทองคำสินทรัพย์ปลอดภัย

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (30 ต.ค.67) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 33.66 บาทต่อดอลลาร์

11. ทองเปิดตลาดวันนี้ (30 ต.ค. 67) พุ่งขึ้น 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 44,800 บาท

12. ตลาดหุ้นไทยเปิด (30 ต.ค.67) ลบ 1.30 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,449.86 จุด

13. ตลาดหุ้นปิด (29 ต.ค. 67) ลบ 1.87 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,451.16 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (29 ต.ค.67) บวก 3.29 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,456.32 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่แนวรับที่ระดับ 2,730 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,770 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 31, 2024, 12:05 am