เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "อ่อนตัว กังวลเงินเฟ้อสหรัฐ"


คาด SET มีแนวโน้มอ่อนตัว โดยคาดได้รับปัจจัยกดดัน หลังเงินเฟ้อสหรัฐในเดือน มี.ค. สูงกว่าคาด สร้างความไม่แน่นอนต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด ด้านแนวรับอยู่ที่ 1400 และ 1390 จุด ตามลำดับ ขณะที่ภาพรวม มีแนวรับหลักบริเวณ 1380-1385 จุด หากไม่ต่ำกว่า ยังเป็นสัญญาณที่ดีอยู่ ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1410 และ 1420 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญ

• สหรัฐรายงานดัชนี CPI ทั่วไป มี.ค. ปรับขึ้น 3.5%YoY ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน มี.ค. ปรับขึ้น 3.8%YoY สูงกว่าตลาดคาด ทำให้ นลท. กังวลว่าเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงอาจทำให้ Fed ยังไม่ตัดสินใจลด ดบ. ใน มิ.ย.

• รายงานการประชุม Fed วันที่ 19-20 มี.ค. ระบุ คกก. Fed กังวลเงินเฟ้ออาจไม่ชะลอตัวลงสู่เป้าหมาย 2% ในระยะเวลาอันใกล้ และเห็นว่า Fed อาจจำเป็นต้องตรึง ดบ. ที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้

• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรลมากกว่าคาด แต่ นลท. กังวลวิกฤต ตอ. กลางลุกลามหลังมีรายงานว่าบุตรชาย 3 คนของผู้นำกลุ่มฮามาสถูกกองทัพอิสราเอลสังหารในกาซา

• Fitch Ratings ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่เชิงลบ จากมีเสถียรภาพ โดยระบุถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนอาจจะเผชิญปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลพยายามกอบกู้ ศก. ให้ฟื้นตัวจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์

• กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คง ดบ. นโยบายไว้ที่ 2.50%  ระบุ ศก. มีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าปีก่อน และยังมีแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐ-มาตรการกระตุ้น ศก. คาดเงินเฟ้อจะปรับขึ้นเข้ากรอบเป้าหมายปลายปีนี้

• รัฐบาลแถลงแจกเงินดิจิทัลใน 4Q67 วงเงิน 5 แสนลบ. ให้ผู้มีสิทธิ์ 50 ล้านคน รายได้ไม่เกิน 8.4 แสนบ.ต่อปี หรือมีเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบ. คาดส่งผลให้ GDP เพิ่มจากฐาน 1.2-1.8% ทั้งนี้แหล่งเงินที่ใช้จะมาจาก  3 แหล่ง คือ เงินกู้ ธ.ก.ส. และงบประมาณปี 67-68

• ม. หอการค้าไทยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค. 67 อยู่ที่ 63.0 ลดลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือนตั้งแต่ ส.ค. 66 กังวล ศก. ไทยฟื้นตัวช้า ราคาพลังงานสูงขึ้น ศก. โลกชะลอตัว และสงครามใน ตอ. กลางยืดเยื้อ

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสฟื้นตัว จากความคาดหวังเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคการผลิตของจีนและสหรัฐ ขณะที่ในประเทศ ผลการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ที่มีข้อสรุปแจกเงินดิจิทัลที่ชัดเจนขึ้น คาดจะเป็นปัจจัยกระตุ้นบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้  กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวแต่ Upside จำกัด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมหลัก ดังนี้ 

1) หุ้นเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นทะลุ US$85/bbl หลังกังวลอุปทานตึงตัวจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่หวังเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนจะหนุนอุปสงค์ โดยผู้รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ Trading PTTEP (ราคาน้ำมันระยะยาวเพิ่มทุก US$1 /bbl  บวกต่อราคาเป้าหมาย 5 บาทต่อหุ้น) และ TOP (ค่าการกลั่นและกำไรสต๊อก) ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม) อย่างไรก็ดี หากราคาน้ำมันปรับขึ้นเกิน US$95/bbl แนะนำให้ “ทยอยขายทำกำไร”

2) หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่จะดีขึ้นตามผลฤดูกาล เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ไทย ซึ่งปีนี้รัฐบาลประกาศจัด 21 วัน เริ่ม 1-21 เม.ย.นี้ (จากข้อมูลในอดีต 13 ปีทีผ่านมาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวมักจะให้ผลตอบแทนที่ดีในเดือน เม.ย. เฉลี่ยราว 2.5%MoM) เลือก AOT ERW MINT CPALL

3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการผลิต (โดยเฉพาะจีน) และผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เลือก GFPT KCE SCGP IVL

4) หุ้นเก็งกำไรจากภาวะดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะอยู่ในช่วงขาลง เลือก กลุ่มไฟแนนซ์ (TIDLOR) กลุ่มสาธารณูปโภค (GULF)

DAILY TOP PICKS

BJC มองเป็นหนึ่งในหุ้นเด่นที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะหนุนให้ยอดขายและกำไรจะปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 4Q67 เนื่องจากบริษัทมียอดขาย 20% ในงบการเงินรวมมาจากร้านค้าขนาดเล็กของ BigC B2B และร้าน “โดนใจ” ซึ่งเป็นร้านของผู้ค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่ซื้อสินค้าจาก BigC

BEM มองกำไรมีโมเมนตัมฟื้นตัวดีสุดในกลุ่มขนส่งทางบก อีกทั้งยังเห็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นที่จะทยอยเข้ามา เช่น การปรับขึ้นค่าโดยสาร MRT ซึ่งคาดจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการต้นเดือน มิ.ย. 67, ข้อสรุปโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และโครงการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 (double deck) ใน 2H67
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 เม.ย. 2567 เวลา : 11:06:31
26-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (25 ธ.ค.68) ลบ 10.56 จุด ดัชนี 1,264.77 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 ธ.ค.68) ลบ 8.74 จุด ดัชนี 1,266.59 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,450-4,430 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,500-4,525 เหรียญ

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 ธ.ค.68) ทำนิวไฮ บวก 288.75 จุด ขานรับ "ซานต้าแรลลี่"

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 ธ.ค.68) ลบ 2.90 ดอลลาร์ นักลงทุนขายทำกำไรหลังราคาพุ่งทำนิวไฮ

6. พยากรณ์อากาศวันนี้ (25 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา /ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (25 ธ.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 31.10 บาทต่อดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (25 ธ.ค. 68) ปรับลดลง 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 66,650 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 ธ.ค.68) ลบ 1.70 จุด ดัชนี 1,273.63 จุด

10. ตลาดหุ้นปิด (24 ธ.ค.68) บวก 4.22 จุด ดัชนี 1,275.33 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 ธ.ค.68) ลบ 0.77 จุด ดัชนี 1,270.34 จุด

12. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (23 ธ.ค.68) พุ่ง 36.30 เหรียญ ยืนเหนือ 4,500 ดอลลาร์ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

13. MTS Gold คาดราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,550-4,570 เหรียญ

14. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (23 ธ.ค.68) บวก 79.73 จุด, S&P ทำนิวไฮ รับ GDP แกร่งเกินคาด หนุนแรงซื้อหุ้นเติบโต

15. ทองเปิดตลาดวันนี้ (24 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 300 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 67,050 บาท

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 26, 2025, 4:24 am