หุ้นทอง
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นชอบแนวทางเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุน ด้านการกำกับดูแลการซื้อขายหุ้น และแนวทางการพัฒนาและชูศักยภาพของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ


ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) วันนี้ (11 เมษายน 2567) ได้มีมติเห็นชอบการกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุนตามที่ได้เคยอนุมัติไว้ รวมถึงเห็นชอบแนวทางดำเนินการอื่นเพื่อพัฒนาและชูศักยภาพของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์การสร้างตลาดทุนที่มีคุณภาพสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนี้

1) แนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น มุ่งยกระดับการกำกับดูแล Naked Short Selling และการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย (Program Trading) โดยเฉพาะการส่งคำสั่งซื้อขายด้วยความเร็วสูง (HFT) ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการยื่นคำขอหรือลงทะเบียนผู้ลงทุนที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายแบบ HFT เพื่อให้สามารถเห็นข้อมูลผู้ลงทุนในระดับบัญชีย่อย (Sub-Account) ของบัญชีที่ไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหลักทรัพย์ (Omnibus Account) ในขณะเดียวกันบริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดให้มีระบบควบคุมการบริหารความเสี่ยงในการส่งคำสั่งซื้อขาย (Pre-Trade Risk Management) เพื่อตรวจสอบการมีหลักทรัพย์ของลูกค้าที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายแบบ HFT ก่อนที่จะส่งคำสั่งขายเข้ามาในระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากนี้ จะมีการกำหนดเวลาขั้นต่ำของคำสั่งซื้อขาย ก่อนที่จะสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งดังกล่าว (Minimum Order Resting Time) เพื่อสร้างมาตรฐานเกี่ยวกับความเร็วของการส่งคำสั่งซื้อขาย ซึ่งจะช่วยป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการส่งคำสั่งซื้อขายทุกประเภท

ทั้งนี้ มาตรการดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขายดังกล่าวข้างต้นอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น และคาดว่าจะสามารถนำเสนอต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2567 นี้

2) แนวทางการพัฒนาและชูศักยภาพของบริษัทจดทะเบียน มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกด้วยการเก็บรวบรวมและการนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน ความสามารถในการแข่งขันรายกลุ่มอุตสาหกรรม ภาวะอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกอบธุรกิจซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New Economy) อันจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของภาครัฐ ออกมาเผยแพร่และต่อยอดร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสื่อต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุก ๆ ฝ่าย อีกทั้งจะให้การสนับสนุนข้อมูลและงบประมาณให้กับหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อจัดทำ Industry Analysis & Outlook Report รวมถึงจะประสานความร่วมมือกับองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง (เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย) เพื่อให้เกิดการ บูรณาการข้อมูลร่วมกัน อันจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน รวมถึงกำหนดกลยุทธ์ในการส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New Economy) ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย

“SET…Make it Work for Everyone”

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 เม.ย. 2567 เวลา : 20:10:21
15-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 16 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเจริญกรุงตัดถนนสาทรใต้

2. ตลาดหุ้นปิด (14 ก.ค.68) บวก 22.18 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,143.31 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวระหว่างแนวรับที่ระดับ 3,345 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,385 เหรียญ

4. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (14 ก.ค.68) บวก 10.78 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,131.91 จุด

5. พยากรณ์อากาศวันนี้ (14 ก.ค.68) กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 60% ภาคกลาง 40% ภาคใต้ 40-60%

6. กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.10-32.80 ติดตามสงครามการค้าและเงินเฟ้อสหรัฐฯ

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (14 ก.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (14 ก.ค. 68) ปรับขึ้น 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,300 บาท

10. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (14 ก.ค.68) บวก 5.21 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,126.34 จุด

11. ตลาดหุ้นไทยปิด (11 ก.ค.68) บวก 10.73 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,121.13 จุด

12. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (10 ก.ค.68) บวก 192.34 จุด รับข้อมูลแรงงานสดใส

13. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (10 ก.ค.68) บวก 4.70 เหรียญ กังวลภาษีทรัมป์แห่ซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (11 ก.ค.68) บวก 17.31 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,127.71 จุด

15. พยากรณ์อากาศวันนี้ (11 ก.ค.68) ภาคเหนือ ฝนตกหนัก 80% ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 60% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 15, 2025, 8:34 am