หุ้นทอง
บล.ทิสโก้คาด เดือน พ.ย. ดัชนีหุ้นไทย อาจผันผวนรับข่าวเลือกตั้งสหรัฐฯ มองเป็นจังหวะสะสมหุ้นกำไรดี


บล.ทิสโก้ชี้เดือนพฤศจิกายนหุ้นไทยจะผันผวนรับความไม่แน่นอนเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่เป็นจังหวะสะสมหุ้นไทยที่ผลประกอบการไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ออกมาดี  
 
 
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปัจจุบันตลาดประเมินโอกาสชนะของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Trump) สูงกว่านางกมลา แฮร์ริส (Harris) และคาดว่าพรรครีพับลิกันจะควบอำนาจมีที่นั่งส่วนใหญ่ในสภา หากเป็นไปตามนั้น บล.ทิสโก้คาดว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ (Bond Yield) จะมีทิศทางขาขึ้นหลังการเลือกตั้ง แต่จะมาพร้อมกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่แนวโน้มกำไรตลาดหุ้นไทยที่ยังถูกหั่นลง อาจกดดันตลาดหุ้นไทยเดือนพฤศจิกายนแกว่งพักฐานต่อเนื่อง  
 
อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้มองว่าเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นที่คาดกำไรจะออกมาดีทั้งในไตรมาส 3/2567 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/2567 และมีความปลอดภัยจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้วย  สำหรับหุ้นเด่นที่ บล.ทิสโก้แนะนำในเดือนพฤศจิกายน คือ ADVANC, AMATA, BEM, COM7, CPALL, MTC และ TASCO ด้านแนวรับสำคัญของดัชนีหุ้นไทยเดือนนี้อยู่ที่ 1,430 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,400-1,410 จุด และแนวต้านสำคัญอยู่ที่1,485-1,490 จุด 1,500-1,520 จุด ตามลำดับ 
 
นายอภิชาติกล่าวอีกว่า สำหรับมุมมองความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นไทยต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น บล.ทิสโก้คาดการณ์ผลกระทบต่อการลงทุนดังต่อไปนี้  
 
ผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ   
 
กรณี Trump ชนะ - คาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับขึ้นทันทีจากนโยบายลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% เป็น 15% ซึ่งมีการประเมินว่าจะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทใน S&P500 ประมาณ +4%  
กรณี Harris ชนะ - การเสนอเพิ่มภาษีนิติบุคคลเป็น 28% ส่งผลลบต่อกำไรประมาณ -5% ถึง -8% เมื่อรวมผลจากนโยบายด้านภาษีอื่น ๆ  
 
ผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชีย  
 
กรณี Trump ชนะ - นโยบายขึ้นภาษีนำเข้า (60% กับจีน, 10% กับประเทศทั่วไป) อาจไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้นจะเพิ่มเงินเฟ้อ ทำให้ FED ปรับลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาด  
 
กรณี Harris ชนะ - อาจคลายความกังวลเรื่องภาษีนำเข้า ส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนในเอเชีย  
 
ผลกระทบต่อตลาดพันธบัตร  
 
Bond Yield 10 ปีอาจปรับสูงขึ้น เนื่องจากนโยบายทั้งคู่น่าจะส่งผลให้สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นคล้ายกัน โดยหาก Trump ชนะและพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอาจหนุน Bond Yield สูงถึง +40 bps ในขณะที่ Harris ชนะและไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา อาจส่งผลต่อ Bond Yield มากสุดที่ประมาณ +20 bps 
  
สำหรับสถิติการตอบสนองของตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ (Honeymoon Period) นับตั้งแต่ปี 1930 หรือหลังวิกฤตเศรษฐกิจ “Great Depression” เป็นต้นมาพบว่า หลังการเลือกตั้ง 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (DJIA Index) มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +3.4% โดยมีระดับความเชื่อมั่นที่ 75% ส่วนตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ 3 เดือน มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +3.2% และมีโอกาสในการปรับตัวขึ้นสูงถึง 82% ส่วนหนึ่งเราเชื่อว่าเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยมักจะเกิดผลกระทบ “January Effect” ในช่วงเดือน ม.ค. ด้วย 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 พ.ย. 2567 เวลา : 15:18:33
02-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (31 ต.ค.68) ลบ 5.15 จุด ดัชนี 1,309.50 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (31 ต.ค.68) บวก 0.17 จุด ดัชนี 1,314.82 จุด

3. MTS Gold คาดว่าตลาดจะ หยุดการปรับตัวลง และจะเข้าสู่ช่วง Sideway สร้างฐานราคา กรอบแนวรับ 3,980 เหรียญ แนวต้านที่ 4,080 เหรียญ

4. ตลาดหุ้นไทยเปิด (31 ต.ค.68) ลบ 8.51 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,306.14 จุด

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (31 ต.ค. 68) ปรับขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,200 บาท

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (30 ต.ค.68) ร่วง 109.88 จุด หุ้น Meta-Microsoft ฉุดตลาด-กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (31 ต.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.34 บาทต่อดอลลาร์

8. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (30 ต.ค.68) บวก 15.20 ดอลลาร์ รับเฟดลดดอกเบี้ย-ความไม่แน่นอนข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐ

9. พยากรณ์อากาศวันนี้ (31 ต.ค.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต." ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคอีสาน ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 60%

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.45บาท/ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (30 ต.ค.68) ลบ 0.99 จุด ดัชนี 1,314.65 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 ต.ค.68) ลบ 5.87 จุด ดัชนี 1,309.77 จุด

13. MTS Gold ราคาทองคำจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 59,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 61,000 บาท/บาททองคำ

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (29 ต.ค.68) บวก 17.6 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟดลดดอกเบี้ย 0.25%

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (30 ต.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 2, 2025, 10:01 pm