เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "เคลื่อนไหวในกรอบ 1445-1470 จุด"


สัญญาณชะลอตัวในช่วงบ่ายวานนี้ ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1465-1470 จุด อย่างไรก็ตาม มองดัชนียังได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเงินบาทกลับมาแข็งค่าเป็นบวกต่อ Fund Flow ทำให้คาดว่ากรอบล่างบริเวณแนวรับ 1445-1450 จุด ยังรองรับได้ ส่วนกรณีขึ้นทะลุผ่าน 1470 จุด จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1480 จุด

ประเด็นสำคัญ

• ปธน. ปูตินได้ลงนามในกฤษฎีกาอนุมัติหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์แล้ว หลังวานนี้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems (ATACMS) ของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย 

• IMF เตือนการโต้ตอบภาษีนำเข้าไปมาระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะบั่นทอนโอกาสทางเศรษฐกิจเอเชีย โดยจะฉุดการเติบโตของประเทศผู้ส่งออก, กระทบประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน และทำให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งขึ้น

• บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจอนุมัติแจกเงินผู้สูงอายุ 60 ปี 4 ล้านคน วงเงิน 4 หมื่นลบ. รับเงินก่อนตรุษจีน คาดเฟส 3 แจก เม.ย. 2568 หลังระบบในแอปสมาร์ตโฟนเสร็จต้นปีหน้า พร้อมเห็นชอบพักหนี้กลุ่มหนี้เสียไม่เกิน 1 ปี วงเงินรวม 1.2-1.3 ล้านลบ. พักดอกเบี้ย 3 ปี 

• คลังพร้อมแปลงหนี้การบินไทยให้เป็นทุน 100% เตรียมเสนอ ครม. เพิ่มทุนรักษาสัดส่วนหุ้นเกิน 40% ภายในเดือน พ.ย.นี้ คาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เดือน พ.ค. 2568

• รมว. คมนาคมเผยการพิจารณาต่ออายุมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายสำหรับสายสีม่วงและสีแดงที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ย. นี้ออกไปอีก 1 ปี จะถูกเสนอต่อครม. ในสัปดาห์หน้า

• AIMC เผยสมาคมบริษัทจัดการลงทุนและสมาชิกบริษัทจัดการลงทุน 16 แห่ง พร้อมนำเสนอ 42 กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) และเตรียมออกกองทุน ThaiESG ใหม่อย่างน้อย 4 กองทุน โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดเงินลงทุนใหม่ไม่ต่ำกว่า 2.5 หมื่นลบ.

• Apple Inc. เพิ่มข้อเสนอลงทุนในอินโดนีเซียอีก 10 เท่า เป็น 100 ล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปี เพื่อแลกกับการยกเลิกการระงับใบอนุญาตจำหน่าย iPhone 16 จากช่วงที่ผ่านมาบริษัทลงทุนต่ำกว่าคำมั่นที่ให้ไว้

กลยุทธ์การลงทุน

แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway ปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจำกัดหลังตลาดรับรู้ปัจจัยบวกจากนายโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่แล้ว สะท้อนจากผลตอบแทนและกระแสเงินที่ไหลเข้าหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ รวมถึงกระแสเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้น EM และตลาดหุ้นจีนจาความกังวลนโยบายปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศมองอยู่ในช่วงปรับประมาณการของบจ. และกำไรตลาด หลังภาพรวมกำไรของ SET 3Q67 อ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้งมีประเด็นต้องติดตามจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในวันที่ 19 พ.ย. และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับคำร้องคดียุบพรรคเพื่อไทยในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ โดยปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจำกัดหลังอยู่ระหว่างรอดูนโยบายภาษีของทรัมป์ ขณะที่ปัจจัยในประเทศรอดูรัฐออกมาตรการกระตุ้น ศก. เพิ่มเติมกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 

1. หุ้น Event Play ที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐเตรียมพิจารณาออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ แจกเงินหมื่นบาทเฟส 2, ช้อปดีมีคืน (Easy E-Receipt) แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT CRC HMPRO TNP) 

2. หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากดอลลาร์แข็งค่า/บาทอ่อนค่า แนะนำกลุ่มที่มีรายได้จากการส่งออก (CPF DELTA) และกลุ่มท่องเที่ยว (AWC AOT MINT) 

3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองมีโมเมนตัมกำไร 4Q67 จะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งเราแนะนำ Outperform เลือก GULF OSP CBG AMATA AU TIDLOR  

4. หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี อาทิ SSF RMF และ THAIESG แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating สูงตั้งแต่ระดับ AA-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO

DAILY TOP PICKS

DELTA: 4Q67 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง YoY จากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่ยังคงเติบโตดี โดยได้แรงหนุนจากความต้องการใช้ Generative AI และ Co-location Service ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งปี 2567 คาดกำไรปกติแตะ 2.08 หมื่นลบ. เติบโต 17.8%YoY และยังเติบโตต่อ 11%YoY ในปี 2568 ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อวันนี้ไม่เกิน 170 บาท

CPALL: 4Q67 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2567 โดยเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากเข้าสู่ High Season และยอดขายสาขาเดิมยังเติบโตแข็งแกร่ง อีกทั้งมาร์จิ้นยังกว้างขึ้นต่อเนื่องจากกมียอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นศก. เพิ่มเติมของรัฐบาลและการปรับลดดอกเบี้ยจะเพิ่ม Upside ให้กับประมาณการ
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 พ.ย. 2567 เวลา : 11:39:01
21-11-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (21 พ.ย.67) ลบ 22.02 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,440.46 จุด

2. ประกาศ กปน.: 26 พ.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเพชรเกษม

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (21 พ.ย.67) ลบ 18.69 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,443.79 จุด

4. MTS Gold คาดมีกรอบแนวรับ 2,630 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 2,675 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (20 พ.ย.67) พุ่งขึ้น 20.70 เหรียญ เหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน หนุนแรงซื้อทอง

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (20 พ.ย.67) บวก 139.53 จุด นักลงทุนจับตาผลประกอบการ Nvidia

7. มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อากาศเย็นตอนเช้า "ยอดดอย" อุณหภูมิต่ำสุด 7 องศา "ยอดภู" 13 องศา ภาคใต้ ฝน 60-70%

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (21 พ.ย. 67) ลบ 16.23 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,446.25 จุด

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (21 พ.ย. 67) พุ่งขึ้น 400 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 44,000 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (21 พ.ย.67) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 34.64 บาทต่อดอลลาร์

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (20 พ.ย.67) บวก 2.37 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,462.48 จุด

13. ประกาศ กปน.: 25 พ.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนรัชดาภิเษก-รามอินทรา

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 พ.ย.67) ลบ 3.23 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,456.88 จุด

15. MTS Gold คาดมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,620 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,655 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 21, 2024, 7:38 pm