(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ ฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 15 พ.ย. 67 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.75 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 429.7 ล้านบาร์เรล โดยปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.1 ล้านบาร์เรล
(+) สถานการณ์ในฝั่งยุโรปตะวันออกยังคงตึงเครียดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังทั้งสองฝ่ายต้องการที่จะชิงความได้เปรียบเหนือแคว้นคูร์สค์ ซึ่งถือเป็นสมรภูมิที่มีความสำคัญที่สุดในช่วงสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งของนาย โจ ไบเดน ปธน. สหรัฐฯ โดยความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบปรับสูงขึ้น
(-) ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 1 ปี และระยะยาว 5 ปี ไว้ที่ระดับ 3.1% และ 3.6% ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยคาดว่าการที่ PBOC ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับนี้เป็นการบ่งชี้ว่าจีนยังคงไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ชัดเจนและย่อมส่งผลกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังมีแนวโน้มตึงตัวจากการหยุดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของซาอุดิอาระเบีย ประจำเดือน พ.ย. 67 ซึ่งปรับลดลง 5.32% สู่ระดับ 3.35 ล้านบาร์เรล ภายหลังการผลิตภายในประเทศปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต๊อกน้ำมันดีเซลของฟูไจราห์ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 18 พ.ย. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 152,000 บาร์เรล สู่ระดับ 2 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันภายหลังการส่งออกน้ำมันดีเซลของอิรักมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น ภายหลังความต้องการใช้ภายในประเทศปรับตัวลดลง
ข่าวเด่น