เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "เคลื่อนไหวภายในกรอบ แต่ภาพรวมยังดี"


 


คาด SET เคลื่อนไหวภายในกรอบ โดยกรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1465-1470 จุด โดยมีปัจจัยกดดันจากหุ้น DELTA ที่ติด Cash Balance ส่วนกรอบล่างมีแนวรับบริเวณ 1445-1450 จุด คาดยังรองรับได้ จากแรงหนุนกลุ่มพลังาน หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัว ทั้งนี้ ในภาพรวม มองดัชนียังมีสัญญาณที่ดี โดยหากทะลุ 1470 จุด จะเป็นบวกต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1480 จุด

ประเด็นสำคัญ

• รมช. คลังเผยบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจได้เห็นชอบหลักการมาตรการแก้หนี้ภาคประชาชนแล้ว โดยจะปรับโครงสร้างหนี้ใหัลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียกับ ธพ. ด้วยการพักชำระดอกเบี้ยและจ่ายเฉพาะเงินต้นเป็นเวลา 3 ปี ธปท. ขานรับมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนและจัดประชุมพิจารณาปรับลดเงินนำส่ง FIDF เหลือ 0.23% นาน 3 ปี

• ม. หอการค้าไทยประเมินทรัมป์เก็บภาษีจีน 60% ขณะที่ไทยโดนหางเลข 10-15% ทำเศรษฐกิจเสียหายกว่า 1.6 แสนลบ. ฉุดส่งออกดิ่ง 1.52% GDP ทรุด 0.87% กระทบเครื่องใช้ไฟฟ้า-อาหาร-ยางโดยตรง แนะรัฐเร่งกระตุ้นช่วงปลายปีก่อนเศรษฐกิจไทยทรุด  

• อสังหาฯ เตรียมรับอานิสงส์ทรัมป์เอฟเฟ็กต์ คอนโดมิเนียมรอโอน 3 หมื่นล้าน จับตาจีนและไต้หวันย้ายฐานสู่ EEC กว้านซื้อที่ดินชลบุรีและระยอง ผุดโรงงานนอกพื้นที่นิคม บูมคลังสินค้า สำนักงาน ที่อยู่อาศัย

• คลังคาดแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านราย ประกาศผู้ผ่านเกณฑ์เดือน ธ.ค. ส่วนเฟส 3 คาดเริ่ม เม.ย. 2568 

• EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 545,000 บาร์เรล มากกว่าตลาดคาด และ Equinor ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของนอร์เวย์กลับมาดำเนินการผลิตที่บ่อน้ำมัน Johan Sverdrup (ใหญ่สุดในยุโรปตะวันตก) หลังระงับการผลิตจากปัญหาไฟฟ้าดับเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

• รมว. พลังงานสั่งกกพ. ระงับเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 ชั่วคราว จนกว่าจะตรวจสอบเสร็จหลังมีผู้โต้แย้ง มองเป็น Sentiment ลบระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า 

• Nvidia เผยผลประกอบการ 3Q67 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ รายได้รวมเติบโต 94% หนุนจากธุรกิจเกี่ยวกับ Data Center ที่เติบโต 112%

กลยุทธ์การลงทุน

แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway ปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจำกัดหลังตลาดรับรู้ปัจจัยบวกจากนายโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่แล้ว สะท้อนจากผลตอบแทนและกระแสเงินที่ไหลเข้าหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ รวมถึงกระแสเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้น EM และตลาดหุ้นจีนจาความกังวลนโยบายปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศมองอยู่ในช่วงปรับประมาณการของบจ. และกำไรตลาด หลังภาพรวมกำไรของ SET 3Q67 อ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้งมีประเด็นต้องติดตามจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในวันที่ 19 พ.ย. และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับคำร้องคดียุบพรรคเพื่อไทยในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ โดยปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจำกัดหลังอยู่ระหว่างรอดูนโยบายภาษีของทรัมป์ ขณะที่ปัจจัยในประเทศรอดูรัฐออกมาตรการกระตุ้น ศก. เพิ่มเติมกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 

1. หุ้น Event Play ที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐเตรียมพิจารณาออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ แจกเงินหมื่นบาทเฟส 2, ช้อปดีมีคืน (Easy E-Receipt) แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT CRC HMPRO TNP) 

2. หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากดอลลาร์แข็งค่า/บาทอ่อนค่า แนะนำกลุ่มที่มีรายได้จากการส่งออก (CPF DELTA) และกลุ่มท่องเที่ยว (AWC AOT MINT) 

3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองมีโมเมนตัมกำไร 4Q67 จะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งเราแนะนำ Outperform เลือก GULF OSP CBG AMATA AU TIDLOR  

4. หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี อาทิ SSF RMF และ THAIESG แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating สูงตั้งแต่ระดับ AA-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO

DAILY TOP PICKS

AMATA: ปี 2567 คาดจะโดดเด่นทั้งยอดขายที่ดินที่คาดจะทำ New High ที่ 2,500 ไร่และผลประกอบการที่จะเติบโตสูงถึง 27.3%YoY รวมไปถึง Backlog ในมือที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 19,269 ลบ. ซึ่งจะหนุนผลประกอบการในช่วง 6-8 ไตรมาสข้างหน้า และคาดแนวโน้มการขายที่ดินในปี 2568 จะยังแข็งแกร่งด้วยผลจากการย้ายฐานการผลิตและการเติบโตของ New Economy

CPAXT: มองเป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์หลักของกลุ่มพาณิชย์จากการเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล ขณะที่ 4Q67 คาดจะเป็นจุดสูงสุดของกำไรปีนี้ โดยเติบโต QoQ ตามผลฤดูกาล และ YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ทั้งนี้ภายหลังควบรวมกิจการ Synergy จะเริ่มมีให้เห็นใน 4Q67 และชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี 2568
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 พ.ย. 2567 เวลา : 11:58:44
21-11-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (21 พ.ย.67) ลบ 22.02 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,440.46 จุด

2. ประกาศ กปน.: 26 พ.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเพชรเกษม

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (21 พ.ย.67) ลบ 18.69 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,443.79 จุด

4. MTS Gold คาดมีกรอบแนวรับ 2,630 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 2,675 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (20 พ.ย.67) พุ่งขึ้น 20.70 เหรียญ เหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน หนุนแรงซื้อทอง

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (20 พ.ย.67) บวก 139.53 จุด นักลงทุนจับตาผลประกอบการ Nvidia

7. มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อากาศเย็นตอนเช้า "ยอดดอย" อุณหภูมิต่ำสุด 7 องศา "ยอดภู" 13 องศา ภาคใต้ ฝน 60-70%

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (21 พ.ย. 67) ลบ 16.23 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,446.25 จุด

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (21 พ.ย. 67) พุ่งขึ้น 400 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 44,000 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (21 พ.ย.67) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 34.64 บาทต่อดอลลาร์

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (20 พ.ย.67) บวก 2.37 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,462.48 จุด

13. ประกาศ กปน.: 25 พ.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนรัชดาภิเษก-รามอินทรา

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 พ.ย.67) ลบ 3.23 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,456.88 จุด

15. MTS Gold คาดมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,620 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,655 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 21, 2024, 8:00 pm